Ahad, 16 Februari 2025

คำว่า “มลายู”ไม่ได้มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์

โดยนิอับดุลรากิ๊บ  บินนิฮัสซัน

ผู้เขียนได้รับส่งวิดีโอและข้อความต่างๆ เกี่ยวกับข้อความที่ว่าคำว่า “มลายู” ไม่ได้มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ ซึ่งแรกเริ่มผู้เขียนไม่อยากสนใจวิดีโอและข้อความต่างๆสักเท่าไร แต่เห็นว่า บางข้อความ และวิดีโอ แทนที่จะเสนอข้อความและหลักฐานที่ถูกต้อง กลับกลายเป็นข้อความที่สร้างแรงไฟ เหมือนสาดน้ำมันลงในกองไฟ


ผู้เขียนได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ของ สกสว. (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ สกว. เดิมว่า เชิญไปร่วมงานรำลึกถึงศาสตราจารย์ ชัยวัฒน์ สถาอานันท์ ในฐานะที่ปรึกษาโครงการชุดมาเลเซีย  ของสกว. ซึ่งผู้เขียนและเพื่อนได้ทำการวิจัยหัวข้อหนึ่ง แต่เมื่อถึงเวลา ด้วยสุขภาพไม่อำนวยจึงไม่อาจไปได้ และต่อมาทางสกสว. (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ สกว. เดิม ก็โทรมาอีก เพื่อให้ร่วมสัมมนาเกี่ยวกับมาเลเซีย ซึ่งจัดโดยสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. โดยจัดขึ้นที่โรงแรมแกรนด์ สปา แอนด์รีสอร์ต อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา จัดขึ้นเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2024  ในครั้งนั้นปรากฏว่ามีหน่วยงานที่เข้าร่วมสัมมนาจำนวนหนึ่ง เช่น เจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้าจากกรมประชาสงเคราะห์ นายทหารจากค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี แต่ด้วยช่วงนั้น อยู่ในช่วงน้ำท่วม ต้องพักต่อที่โรงแรมแกรนด์ สปา แอนด์รีสอร์ต ราวสามวัน พร้อมๆกับนายทหารจากค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี เมื่อสถานการณ์สามารถกลับบ้านได้ ผู้เขียนจึงพูดคุยกับนายทหารจากค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี นายทหารระดับนายพลตรี มีตำแหน่งเป็นรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หรือ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ได้คุยถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาภาคใต้ ผู้เขียนก็ได้พูดแบบเปิดอกว่า ผู้เขียนจะดำเนินความป็นนักวิชาการ มีความเป็นกลางสูง แม้ว่าจะเกษียณมาแล้วสามปี  อะไรที่แนวทางผู้เห็นต่างทำถูก ผู้เขียนก็สนับสนุน หรือถ้าฝ่ายรัฐทำถูก ผู้เขียนก็สนับสนุน  และตอนท้ายของการพูดคุย ผู้เขียนบอกว่า ไม่อยากให้ทางฝ่ายไอ.โอ.ของรัฐเผยแพร่ข้อความ หรือวิดีโอ ที่ไร้หลักฐาน แทนที่จะเป็นผลดีต่อรัฐ กลับกลายเป็นสาดน้ำมันลงกองไฟ ท่านนายพลตรีท่านนั้น ก็ฟัง แต่เหมือนในใจมีอะไร ที่จะบอกว่า คุมไม่ได้

และเมื่อเพื่อนได้ส่งวิดีโอมา แม้จะเป็นวิดีโอเก่า ผู้เขียนจึงใช้เฟสบุ๊คในการแจ้งข้อเท็จของความเป็นมาของคำว่า มลายู สิ่งที่น่าตกใจ แม้ไม่มีการกดไลค์จำนวนมาก และมีกดอันไลค์จำนวนพอควร จากบางส่วนที่เป็นไอ.โอ. และมีคนหนึ่งเป็นทหารที่ดูแล ชำนาญด้านกัมพูชา แต่ดันเสือกโต้ตอบในเรื่องมลายู ถึงอย่างไร ผู้เขียนต้องต้องตกใจ เมื่อเฟสบุคแจ้งว่า มียอดคนดู หรือ วิว มีถึง 1 แสนกว่าวิว ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้ว่า ถ้าพวกไอ.โอ. ไม่สาดน้ำมันลงกองไฟ ไฟก็จะไม่โหม แทนที่จะดับไฟใต้ กลายเป็นสร้างความเกลียดชัวมากขึ้น ในครั้งนี้ผู้เขียนจึงขอใช้บล๊อคเพื่อเขียนขยายความของคำว่าที่ว่าคำว่า “มลายู”ไม่ได้มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์


เมื่อมีกล่าวว่าคำว่า “มลายู”ไม่ได้มีอยู่จริง แต่คำนี้ถูกสร้างขึ้นโดยนักล่าอาณานิคมชาวตะวันตก จริงไหม พูดได้เลยว่า ไม่จริง คำว่า “มลายู” มีอยู่จริงในประวัติศาสต์ คำนี้มีอายุ ไม่ต่างจากอาณาจักรสุโขทัย หรือคำนี้อาจมีอายุมากกว่าด้วยซ้ำไป ในครั้งนี้ขอยกหลักฐานอยู่ 2 ข้อ คือ

1.     คำว่า “มลายู” มีอยู่ในบันทึกของพระภิกษุอี้จิง (Yijing, I-ching, I-tsing) โดยพระภิกษุอี้จิง (มีอายุระหว่าง ค.ศ. 635–ค.ศ. 713) ได้เดินทางจากประเทศจีนเพื่อไปศึกษาศาสนาพุทธที่ประเทศอินเดีย โดยแวะพักเกาะสุมาตรา และบันทึกถึงรัฐมลายู เรียกเป็นสำเนียงจีนว่า โมโลยู นั้นแสดงว่า คำว่า “มลายู” มีมาราว 1,400 ปีมาแล้ว และบันทึกของพระภิกษุอี้จิง ได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษ โดย ดร. J. Takkusu โดยชื่อว่า A Record of Buddhist Relagion as Practiced in India and Malay Archipelago (A.D 671-695) พิมพ์ในปี 1896 หรือ 100 กว่าปีก่อน สามารถอ่านหนังสือแปลเล่มนี้ได้ ผมแขวนในบล็อกผมด้วย 

ที่ https://shorturl.at/3CTLV


2.     ในศิลาจารึกที่ชื่อว่า ศิลาจารึกปาดังโรโจ (Prasasti Padang Roco) เป็นพระพุทธรูปปางอโมฆปาศ และมีศิลาจารึกที่ฐานพระพุทธรูป ศิลาจารึกนี้เขียนด้วยภาษามลายูโบราณและภาษาสันกฤต เป็นของขวัญที่กษัตริย์เกอร์ตานาฆาราแห่งอาณาจักรสิงหาซารี บนเกาะชวา มอบให้รัฐมลายูบนเกาะสุมาตรา บันทึกว่าสร้างขึ้นในปีซากาศักราช 1208 (ซากาศักราช เป็นปีศักราชที่ชาวชวาใช้มาในอดีต เป็นปีศักราชที่รับมาจากอินเดีย) เทียบเท่าปี ค.ศ. 1286 ศิลาจารึกนี้เขียนด้วยอักขระชวาโบราณ 

บรรทัดที่ 4 เขียนว่า 4. samagat payanan han Dipankaradasa, rakryan damun Pu Wira paduka Amoghapasa. Bhumi Malayu, brahmana, ksatrya, waisa, sudrarAryya, Sri Maharaja Srimat Tribhuwanaraja Mauliwarmmadewa.,  (ขอให้ของขวัญชิ้นนี้ทำให้ชาวรัฐมลายูทุกท่านดีใจ รวมทั้งพราหมณ์ ทหาร ชาววรรณะแพทศย์ ชาวววรรณะซูดรา (ต่ำสุด) และศูนย์กลางของทั้งปวง ศรีมหาราช ศรีมัตตรีภูวนาราชา เมาลิวาร์มมาเทวา)

 ผู้เขียนขอสุดท้ายว่า เมื่อมีคนกล่าวว่า คำว่า “มลายู” ไม่มีในประวัติศาสตร์ ก็สามารถตอบได้ว่า คำว่า “มลายู” มีอยู่ในประวัติศาสตร์ และเมื่อให้ดูหลักฐานข้างต้นเพียง 2 ข้อ ก็สามารถหักล้างคำกล่าวที่ว่า คำว่า “มลายู” ไม่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ และคำว่า “มลายู” มีอายุไม่ต่างจากอาณาจักรสุโขทัย หรืออาจมีอายุมากกว่าด้วยซ้ำไป


Tiada ulasan: