โดย นิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน
เมื่ออังกฤษเข้าควบคุมหมู่เกาะอินเดียตะวันออก หรืออินโดเนเซียในปัจจุบัน ในปี 1811 และในปี พ.ศ. 1812 ก็ได้มีการพิมพ์หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษชื่อว่า "Java Government Gazzete" ในปี 1829 ก็ได้ตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ชื่อ "Bataviasche Courant" ต่อมาได้เปลี่ยนเป็น "Javasche Courant" ซึ่งตีพิมพ์สามครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งมีเนื้อหาอย่างเป็นทางการ ประกาศและข้อบังคับและการตัดสินใจของผู้ปกครองเจ้าอาณานิคม
ในปี 1851 ก็ได้พิมพ์หนังสือพิมพ์ชื่อว่า "De Locomotief" พิมพ์ในเมืองเซมารัง
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้มีเจตนาวิพากษ์วิจารณ์ต่อการปกครองเจ้าอาณานิคมและมีอิทธิพลอย่างมาก ในศตวรรษที่ 19
เพื่อแข่งขันกับหนังสือพิมพ์ภาษาดัตช์ ได้เกิดหนังสือพิมพ์ภาษามลายูและภาษาชวาขึ้น
แม้ว่าบรรณาธิการจะยังเป็นชาวดัตช์ก็ตาม เช่น หนังสือพิมพ์ "Bintang
Timoer" (สุราบายา 1850) หนังสือพิมพ์
"Bromartani" (สุราการ์ตา 1855) หนังสือพิมพ์"Bianglala"
( บาตาเวีย 1867) และ หนังสือพิมพ์ Berita Betawie (บาตาเวีย 1874)
ในปี 1907 หนังสือพิมพ์ "Medan Prijaji" ได้รับการตีพิมพ์ในเมืองบันดุง
ซึ่งถือเป็นผู้บุกเบิกของสื่อระดับชาติ เนื่องจากได้รับการตีพิมพ์โดยผู้ประกอบการชนพื้นเมืองเป็นครั้งแรก
ได้แก่ นายตีร์โต อาธี โซร์โย (Tirto Adhi Soerjo) เมื่อญี่ปุ่นสามารถชนะเนเธอร์แลนด์และยึดครองอินโดเนเซียในที่สุดในปี
1942 นโยบายด้านสื่อก็เปลี่ยนไปเช่นกัน ผู้พิมพ์หนังสือพิมพ์ทั้งหมดที่เป็นชาวดัชต์และชาวจีนไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการ
หน่วยงานทหารของญี่ปุ่นได้ตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ของตนเองจำนวนหนึ่งแทน
ในเวลานั้นมีหนังสือพิมพ์อยู่ห้าฉบับ ได้แก่หนังสือพิมพ์ Jawa Shinbun ซึ่งตีพิมพ์ในเกาะชวา หนังสือพิมพ์ Boernoe Barat Shinbun ในเกาะกาลิมันตัน หนังสือพิมพ์ Celebes Shinbun ในเกาะสุลาเวสี หนังสือพิมพ์ Sumtra Shinbun ในเกาะสุมาตรา และ หนังสือพิมพ์ Ceram Shinbun ในเกาะเซรัม ในช่วงทศวรรษ 1950-1960 เกิดบวนการทางการเมืองจากกลุ่มชาตินิยม ศาสนานิยม ฝ่ายคอมมิวนิสต์ และฝ่ายการทหาร
ในช่วงเวลานี้
เหตุการณ์สำคัญหลายประการในประวัติศาสตร์ของสื่อมวลชนอินโดเนเซียได้ถือกำเนิดขึ้น
เช่น LKBN Antara หรือ Lembaga
Kantor Berita Nasional Antara (สำนักข่าวแห่งชาติอันตารา) เมื่อวันที่ 13
ธันวาคม 1937 สถานีวิทยุสาธารณรัฐอินโดเนเซีย หรือ RRI เมื่อวันที่
11 กันยายน 1945 และองค์กร Indonesian Journalist Association (Persatuan Wartawan
Indonesia - PWI) ในปี 1946 ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นผู้บุกเบิกวันสื่อมวลชนแห่งชาติ
ต่อมาก็เกิดสถานีโทรทัศน์สาธารณรัฐอินโดเนเซีย หรือ Televisi Republik
Indonesia (TVRI) ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลก็เกิดเมื่อปี 1962
เช่นกัน
เดือนกันยายนถึงสิ้นปี 1945 สื่อมวลชนระดับชาติมีความเข้มแข็งมากขึ้น
โดยมีการพิมพ์หนังสือพิมพ์ "Soeara
Merdeka" ในเมืองบันดุง และหนังสือพิมพ์ "Berita
Indonesia" ในกรุงจาการ์ตา รวมถึงหนังสือพิมพ์อื่นๆ
อีกสองสามฉบับ เช่น หนังสือพิมพ์ "Merdeka" หนังสือพิมพ์
"Independence" หนังสือพิมพ์ "Indonesian
News Bulletin” หนังสือพิมพ์ "Warta Indonesia" และหนังสือพิมพ์ "The Voice of Free Indonesia"
หนังสือพิมพ์ Bataviasche
Nouvelles en Politique Raisonnemente หรือมักเรียกสั้น ๆ ว่า Bataviasche
Nouvelles เป็นหนังสือพิมพ์สมัยใหม่ฉบับแรกที่ตีพิมพ์ในหมู่เกาะอินเดียตะวันออกของดัตช์
ปัจจุบันคืออินโดเนเซีย
หนังสือพิมพ์ภาษาดัตช์ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อวันที่
7 สิงหาคม 1744 ในเมืองบาตาเวีย ปัจจุบันคือจาการ์ตา
ซึ่งหมายความว่าหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ตีพิมพ์ประมาณ 136
ปีหลังจากการตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ Avisa Relation หรือ Zeitung ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ฉบับแรกของโลก
ตีพิมพ์ในเมือง
Wolfenbüttel ประเทศเยอรมันในปี 1609
เป็นสิ่งตีพิมพ์ทีริเริ่มอนุญาตโดยผู้ว่าการกุสตาฟ
วิลเล็ม บารอน ฟาน อิมฮอฟฟ์ (Gustaaf Willem
baron van Imhoff) หนังสือพิมพ์ Bataviasche Nouvelles en
Politique Raisonnemente หยุดพิมพ์ในปี 1746
ตามคำสั่งของ VOC
(Vereenigde Oost-Indische Compagnie) ที่ไม่ต้องการเห็นสื่อมวลชนพัฒนาขึ้นในหมู่เกาะอินเดียตะวันออกของดัตช์
หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ตีพิมพ์เป็นรายสัปดาห์ โดยได้รับอนุญาตจากเจ้าอาณานิคมภายใต้ผู้ว่าการกุสตาฟ
วิลเล็ม บารอน ฟาน อิมฮอฟฟ์ (Gustaaf Willem baron van Imhoff) ที่มีหัวแนวคิด "เสรีนิยม" ซึ่งอนุญาตตีพิมพ์เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 1745 แม้ว่าจะมีการยื่นใบอนุญาตสำหรับหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ในเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 1744 และได้รับอนุมัติในเกือบหนึ่งปีต่อมา คือ เดือนกุมภาพันธ์ 1745
แสดงให้เห็นผู้ว่าการกุสตาฟ วิลเล็ม บารอน ฟาน อิมฮอฟฟ์ (Gustaaf Willem
baron van Imhoff) ไม่เต็มใจที่จะอนุญาตจริงๆ
อย่างไรก็ตาม สภา 17 หรือ De Heeren Zeventien ซึ่งสภานี้ประกอบด้วยผู้อำนวยการจำนวน 17 คนของ VOC
(Vereenigde Oost-Indische Compagnie) ที่เป็นตัวแทนของ 17 จังหวัดที่แตกต่างกัน จะควบคุมดูแลเขตการปกครองของเจ้าอาณานิคม วางระเบียบการค้ายในฮินเดียตะวันออกของดัตช์
มีสำนักงานใหญ่อยู่เมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ไม่ชอบหนังสือพิมพ์ฉบับนี้เพราะถือว่าเป็นอันตรายยิ่ง
เนื้อหาของหนังสือพิมพ์นี้ส่วนใหญ่เป็นกฎระเบียบและข่าวการเดินเรือที่สำคัญ
การแต่งตั้งและการเลิกจ้างเจ้าหน้าที่ VOC (Vereenigde Oost-Indische
Compagnie) ตลอดจนรายงานเหตุการณ์ต่างๆบนเกาะชวา เกาะสุมาตรา
ศรีลังกา แหลมกู๊ดโฮป (อัฟริกาใต้) และประเทศอื่นๆ ที่ VOC (Vereenigde
Oost-Indische Compagnie) ดำเนินธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 20
มิถุนายน 1746 ผู้ว่าการกุสตาฟ วิลเล็ม บารอน ฟาน อิมฮอฟฟ์ (Gustaaf
Willem baron van Imhoff) ได้เพิกถอนใบอนุญาตตีพิมพ์อีกครั้ง
เห็นได้ชัดว่าการห้ามหนังสือพิมพ์ Bataviasche Nouvelles มีสาเหตุมาจากความกลัวของ VOC (Vereenigde Oost-Indische Compagnie) ว่าคู่แข่งจะได้รับประโยชน์จากข่าวที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ ทัศนคตินี้เคยแสดงให้เห็นในปี 1712 หรือ 32 ปีก่อนวันเกิดของหนังสือพิมพ์ Bataviasche Nouvelles ในเวลานั้นมีความพยายามในบาตาเวียในการตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อบรรจุข่าวในประเทศ ข่าวเรือ และอื่นๆ แต่ล้มเหลวเนื่องจากการต่อต้านจาก VOC (Vereenigde Oost-Indische Compagnie) แม้ว่าหนังสือพิมพ์ Bataviaasche Nouvelles จะมีอายุเพียง 16 เดือนและยุติการตีพิมพ์ประมาณ 63 ปี 5 เดือน แต่ในที่สุดก็สามารถตีพิมพ์ขึ้นมาใหม่อีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน 1809 เมื่อปรากฏตัวครั้งที่สองมีขนาดเล็กกว่าและมีเพียงโฆษณาเท่านั้น ชาวมลายูและชาวพื้นเมืองเรียกว่า Surat Lelang หรือข่าวการประมูล ชาวดัตช์เรียกว่า VenduNieuws ในระหว่างปี 1776-1809 เท่านั้นที่มีการตีพิมพ์หนังสือพิมพ์อีกฉบับ เช่น หนังสือพิมพ์ Het VenduNieuwus (ข่าวการประมูล) แต่หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ไม่มี "ข้อมูลภายในประเทศ" และถูกเซ็นเซอร์อย่างเข้มงวดมาก ใบอนุญาตการตีพิมพ์หนังสือพิมพ์ ได้ให้แก่นาย L. Dominicus ซึ่งเป็นช่างพิมพ์ในเมืองบาตาเวีย เนื่องจากจำเป็นต้องมีการตีพิมพ์การประมูลที่จัดขึ้นโดย VOC (Vereenigde Oost-Indische Compagnie) โฆษณาการประมูล ของ VOC (Vereenigde Oost-Indische Compagnie) ได้รับการเผยแพร่ฟรี ในขณะที่ผู้ลงโฆษณารายอื่นต้องจ่าย
ในช่วงต้นเดือนมกราคม ผู้ว่าการของ VOC (Vereenigde Oost-Indische Compagnie) ที่ชื่อว่า Herman Willem Daendels ได้ใช้กฎระเบียบพิเศษที่มี 19 มาตราเพื่อเก็บภาษี และกำหนดให้บรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ Bataviaasche Nouvelles ใช้หนังสือพิมพ์ให้เป็นประโยชน์แก่ VOC (Vereenigde Oost-Indische Compagnie) ใส่ผลประโยชน์ของรัฐบาลในหนังสือพิมพ์ของตน และหนึ่งใน 19 มาตราดังกล่าว คือ ผู้ว่าการ Herman Willem Daendels ได้เปลี่ยนชื่อ Bataviaasche Nouvelles เป็น Bataviaaschecoloniale Courant
อ้างอิง
David T. Hill, The Press in
New Order Indonesia, University of Western Australia.1994.
Dari pers Hindia Belanda
hingga Pers Nasional Indonesia, https://www.antaranews.com/.
Skripsi Perkembangan Pers Dalam
Kaitannya Dengan Perkembangan Politik Di Semarang Tahun 1912-1930, Universitas
Negeri Semarang, 2007.
Perkembangan Pers di Indonesia dari Masa ke Masa. https://www.kompas.com