Rabu, 10 Januari 2024

จากศูนย์ประสานงานปกครองจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศปต.) สู่ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) หน่วยงานรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้

โดยนิอับดุลรากิ๊บ  บินนิฮัสซัน

ครั้งนี้ขอเสนอประวัติและบทบาทของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ส่วนตัวเห็นว่าศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มีความสำคัญยิ่งในการแก้ไชปัญหา และพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ผู้เขียนเห็นว่า การแก้ไชปัญหา และพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ยังมีปัญหา การดำเนินงานยังมีจุดอ่อนอีกมาก ซึ่งผู้เขียนจะขอกล่าวในช่วงท้าย ก่อนอื่น เรามารู้จักศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กันก่อนดีกว่า


การจัดตั้งองค์การบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้  

มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานปกครองจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปต.)   โดยมติของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  2  มิถุนายน  2507  แล้ว ลงมติอนุมัติหลักการโครงการศูนย์ประสานงานปกครองจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมอบให้กระทรวงมหาดไทยรีบเร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีให้เป็นผลสำเร็จตามนโยบายด้วยดี โดยกรมการปกครองเป็นเจ้าหน้าที่รับผิดชอบโครงการและเริ่มดำเนินการ เมื่อวันที่ 11 มกราคม  2508  เป็นต้นมา  ต่อมาในสมัยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มุ่งแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยการพยายามให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา จึงได้เริ่มจัดตั้ง ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และกองบัญชาการ พลเรือน ตำรวจ ทหาร ที่ 43 (พตท.43) ได้ถูกนำมาใช้เพื่อหวังให้เหตุการณ์ความไม่สงบทางภาคใต้หมดไป ในการจัดตั้ง ศอ.บต. และ พตท.43 ขึ้นนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาโดยการนำแนวความคิดเรื่องความมั่นคง มาใช้ควบคู่ไปกับการพัฒนา โดยให้ความสำคัญกับทั้ง 2 ด้านอย่างเท่าเทียม  อีกทั้งองค์กรที่ตั้งขึ้นเป็นเสมือนเวทีสาธารณะที่เปิดโอกาสในการแสดงความคิดเห็น หรือแม้แต่การเข้ามาร้องเรียนเมื่อประชาชนได้รับความไม่เป็นธรรมอันเกิดจากข้าราชการ นอกจากนี้ยังเป็นหน่วยงานที่คอยดูแลประสิทธิภาพของส่วนราชการและคอยปกป้องสิทธิของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้จากการถูกเอารัดเอาเปรียบจากภาครัฐ และเป็นองค์กรเพื่อการประสานงานโครงการการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ต่อมาเมื่อนายชวน หลีกภัยเป็นนายกรัฐมนตรีเหตุกาการณ์ด้านความมั่นคงทั้งระดับภูมิภาคและระดับประเทศได้ลดระดับความรุนแรงลงมาก รัฐบาลชวนจึงได้ทำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือยกเลิกพระราชบัญญัติการกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ และได้แยกหน่วยงานที่ทำการพัฒนาและดูแลความความมั่นคงออกจากกันอย่างเด็ดขาด โดยให้ ศอ.บต. ดูแลงานพัฒนา โดยมีกระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบ  ส่วนงานด้านความมั่นคงและการปราบปราม ให้พตท.43 เป็นผู้ดูแล โดยใช้ กอ.รมน. หรือหน่วยงานในพื้นที่เป็นหลักในการกำกับดูแล  เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐบาลจึงประกาศยกเลิก ศอ.บต. และ พตท.43 โดยมีการยุบหน่วยงานนี้เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม  2545   ต่อมาเหตุการณ์ความไม่สงบกลับทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น รัฐบาลจึงจำเป็นต้องจัดตั้งหน่วยงานใหม่เพื่อเป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขปัญหาโดยเริ่มแรกได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กปต.) เพื่อเป็นเจ้าภาพในการประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้    เนื่องจากผลการดำเนินงานของ กปต. ไม่ปรากฏรูปธรรมที่ชัดเจน กปต. จึงถูกปรับบทบาทใหม่ พร้อมกับรัฐบาลได้มีมติให้จัดตั้ง กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) เพื่อเป็นศูนย์ควบคุมและเป็นแกนหลักในการประสานการ ปฏิบัติงานการแก้ปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และปรับให้ กปต. มาทำงานประสานกับกองทัพภาค 4 ส่วนหน้า และ กอ.สสส.จชต.

ต่อมามีการปรับโครงสร้างและอำนาจหน้าที่ของ กอ.สสส.จชต. อีกครั้ง และในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2547 เป็นต้นมา ซึ่งเป็นยุคของ พลเอกสิริชัย ธัญญสิริ นั้น องค์กร กอ.สสส.จชต. ในช่วงนี้เป็นองค์กรที่มีโครงสร้างการบริหารจัดการที่มีการบูรณาการมากที่สุด เนื่องจากมีการมอบอำนาจในการตัดสินใจ และมีทรัพยากรในการแก้ไขปัญหาที่พร้อมที่สุดเพราะมอบให้ กอ.สสส.จชต. สามารถบูรณาการงบประมาณและหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ได้ด้วยตนเอง อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาโดยยึดหลักความมั่นคงควบคู่ไปกับการพัฒนา ซึ่งจะเห็นได้จากการมีหน่วยงานด้านความมั่นคงและด้านการพัฒนาทุกหน่วยอยู่ในโครงสร้างองค์กร   ต่อมาเมื่อเกิดเหตุการณ์ปฏิวัติในวันที่ 19 กันยายน  2549 โดยมีพลเอกสนธิ  บุญรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำการรัฐประหาร ยึดอำนาจการปกครองของรัฐบาลรักษาการ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และมีการแต่งตั้งพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี  หลังจากนั้นพลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ จึงได้มีการจัดตั้ง ศอ.บต. ขึ้นมาใหม่ โดยคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 207/2549 ให้จัดตั้ง ศอ.บต. ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2549 และมีการเสนอ พ.ร.บ. ศอ.บต. ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2550  ทางสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติให้กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ศอ.บต. ถอนร่างฯกลับไปพิจารณาใหม่  ซึ่งโดยความเป็นจริงแล้ว ศอ.บต. เป็นองค์กรที่มีบทบาทอย่างมากต่อกระบวนการผสมกลมกลืนทางวัฒนธรรมเพื่อให้ชาวมลายูมุสลิมมีการยอมรับในวัฒนธรรมของชนกลุ่มใหญ่ของประเทศ


การดำเนินงานของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มีทั้งเชิงบวก และเชิงมีจุดอ่อน แม้ปัจจุบันศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จะมีการจัดตั้ง สภาคณะกรรมการที่ปรึกษา ซึ่งมาจากภาคส่วนต่างๆ มีทั้งภาคส่วนประชาชน แต่บทบาทของศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) มีการยอมรับจากประชาชนลดลง หรือเท่าเดิม น่าจะมีการสำรวจผลการยอมรับของประชาชน ด้วยการดำเนินการที่เป็นกลาง ไม่โน้มเอียงทางหน่วยงานรัฐ หรือ เจ้าของทุนที่ให้งบสำรวจมา การทำงานของเจ้าหน้าที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ส่วนหนึ่งแม้จะมืออาชีพ แต่ทำงานเหมือนไม่ใช่มืออาชีพ ในอดีตเราสามารถดูผลงานเชิงจุดอ่อน ได้จากหนังสือพิมพ์มุสลิม ที่พิมพ์ในส่วนกลาง เช่น ประชาชาติมุสลิม หรือ ทางนำ สำหรับที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นการมอบทุนการศึกษา โดยเฉพาะจากองค์กรเอกชนในอินโดเนเซีย ดูเหมือนศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ไม่ได้คัดกรองสถาบัน ทำให้เมื่อผู้รับทุนส่วนหนึ่งจบการศึกษาแล้ว ยังมีมาตรฐานที่ไม่ผ่าน ยังต้องเรียนเพิ่มเติมกับสถาบันการศึกษาในประเทศไทย สำหรับผู้เขียนเห็นว่า ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ในฐานะเป็นหน่วยงานรัฐ ที่ทำหน้าที่แก้ไข พัฒนานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งศูนย์ฯ (ศอ.บต.) ก็มีหน่วยงานปีกการศึกษา ซึ่งสามารถประสานของทุนการศึกษาจากมหาวิทยาลัยรัฐในอินโดเนเซีย ซึ่งมีมาตรฐานกว่ามหาวิทยาลัยเอกชน เมื่อจบการศึกษาแล้ว มีช่องทางทางอาชีพที่กว้างขึ้น

Tiada ulasan: