โดย นิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน
ซาลาลาตุส วาลาติน (Sulalatus Salatin) หรือการสืบทอดของบรรดาสุลต่าน หรือที่รู้จักในอีกช่อหนึ่งว่า ประวัติศาสตรมลายู เป็นงานเขียนทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความรุ่งเรือง และ การล่มสลายของสุลต่านแห่งรัฐมะละกา เป็นงานเขียนที่เขียนโดยนักเขียนชาวมลายูหลายคน มีการกล่าวว่า เมื่อชาวโปรตุเกสเข้ามายึดครองรัฐมะละกา ชาวโปร์ตุเกสได้นำสำเนาประวัติศาสตร์มลายูนี้กลับไปยังมืองกัวในอินเดีย ในเวลาไม่กี่ต่อมาสำเนาประวัติศาสตร์มลายูนี้ทางขุนนางมลายูที่ชื่อว่าโอรังกายาซูกูห์ (Orang Kaya Suguh) ได้นำจากเมืองกัว กลับไปยังรัฐโยโฮร์เขียนขึ้นในรัฐมะละกาและด้วยเมื่อสุลต่านมะห์มุดชาห์ล่าถอยจากรัฐมะละกาในปี
ค.ศ. 1511 จึงได้นำต้นฉบับประวัติศาสตรมลายูตัวไป
จากนั้นต้นฉบับนี้ถูกนำไปยังรัฐโยโฮร์จากเมืองกัมปาร์ บนเกาะสุมาตราในปี ค.ศ. 1528
ประวัติศาสตรมลายู สำเนาฉบับที่มีในวันนี้เชื่อว่า
มาจากต้นฉบับปี ค.ศ. 1356 และแก้ไขใหม่ในปี ค.ศ.1612 สำเนาต้นฉบับที่มีอยู่บันทึกว่า
ปี ค.ศ. 1808
งานเขียนนี้ถือว่ามีความสำคัญเพราะอธิบายถึงขนบธรรมเนียมของรัฐ
การจัดเรียงของสุลต่านมลายู และประวัติศาสตร์ของรัฐมลายู และอาจกล่าวได้ว่ามีความกับการบันทึกประวัติศาสตร์ของจีน
ด้วยเหตุนี้งานเขียนประวัติมลายู จึงถูกจัดอยู่ในความทรงจำแห่งโลก หรือมรดกโลกของ UNESCO ในปี 2001
งานเขียนประวัติศาสตร์นี้มีอย่างน้อย 29 เวอร์ชั่น ในบรรดาต้นฉบับที่มีอยู่ทั้งหมด
จะมีเนื้อหาที่แตกต่างบ้าง
งานเขียนประวัติศาสตร์มลายูนี้มีอย่างน้อย 29 เวอร์ชั่นหรือต้นฉบับนั้น ที่เก็บที่ประเทศอังกฤษมี 11 ฉบับ (10 ฉบับในกรุงลอนดอน 1 ฉบับอยู่ในเมืองแมนเชสเตอร์) ประเทศเนเธอร์แลนด์มีอยู่ 12 ฉบับ (11 ฉบับอยู่ในเมืองไลเดน 1 ฉบับในเมืองอัมสเตอร์ดัม) ประเทศอินโดเนเซียมี 5 ฉบับ (5 ฉบับอยู่ในกรุงจาการ์ตา) และประเทศรัสเซียมีอยู่ 1 ฉบับ (เก็บไว้ในเมืองเลนินกราด ชื่อระหว่างปี 1924–1991 หรือในปัจจุบันชื่อว่าเมืองเซนตืปีเตอร์เบิร์ก)
ตัวอย่างเวอร์ชั่นต่างๆ
1.เวอร์ชั่น Raffles แปลเป็นภาษาอังกฤษครั้งแรก โดย John Leyden ปี 1821
2.เวอร์ชั่น Munshi
Abdullah ปี 1831
3.เวอร์ชั่น Edouard
Dulaurier ปี 1849
4.เวอร์ชั่น แปลนาษาฝรั่งเศส ปี 1896
5.เวอร์ชั่น William
Shellabear ปี 1915
6.เวอร์ชั่น Raffles 18 พิมพ์โดย Richard Olaf Winstedt ปี 1938
Tiada ulasan:
Catat Ulasan