เรื่องปริญญาปลอม ในเรื่องที่จะเสนอนี้ แม้จะเป็นเรื่องเก่าไปบ้าง แต่สำหรับคำว่าปริญญาปลอม ในประเทศไทยยังคงมีตลอด ดังนั้น เรื่องปริญญาปลอมยังสามารถถือว่าเป็นเรื่องปัจจุบันอยู่เสมอ
จาก BBC ภาคภาษษไทย (https://www.bbc.com/thai/international-42704774)
ผู้สื่อข่าวบีบีซีได้รับการเสนอขายปริญญาจาก
"มหาวิทยาลัยนิกสัน" เป็นมูลค่าราว 1 แสนบาท
รายการ
"File
on Four" ของสถานีวิทยุบีบีซี เรดิโอ 4 แฉ
พลเมืองในสหราชอาณาจักรหลายพันคนซื้อ "ปริญญาปลอม"
จากบริษัทต้มตุ๋นในปากีสถาน ซึ่งมีมูลค่าธุรกิจหลายล้านปอนด์
"เอแซค"
(Axact)
ซึ่งอ้างตนว่าเป็น
"บริษัทเทคโนโลยีสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก"
ทำธุรกิจสร้างมหาวิทยาลัยออนไลน์ปลอมหลายร้อยแห่ง ซึ่งดำเนินการโดย
พนักงานคอลเซนเตอร์ในนครการาจี ในปากีสถาน
รายการ
"File
on Four" รายงานว่า ระหว่างปี 2013-2014 ลูกค้าในสหราชอาณาจักรซื้อใบปริญญาปลอมมากกว่า
3 พันใบ ทั้งระดับปริญญาตรี โท เอก
ส่องหลักสูตรออนไลน์ฟรีจาก
10 มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก
วิทยานิพนธ์
"สตีเฟน ฮอว์กิง" มีผู้เข้าดูแล้ว 2 ล้านครั้ง
บริษัทดังกล่าวบริหารจัดการมหาวิทยาลัยปลอม
เช่น "มหาวิทยาลัยบรูคลิน พาร์ค", "มหาวิทยาลัยนิกสัน"
โดยในเว็บไซต์มีรูปนักศึกษาวิทยาลัยยิ้มแย้ม และมีแม้กระทั่งบทความปลอม ๆ
ที่เขียนเยินยอสถาบัน
ผู้ที่ซื้อปริญญาดังกล่าวมีตั้งแต่พนักงานของบริษัทจัดซื้อจัดจ้างอาวุธและยุทธภัณฑ์
และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติของ สหราชอาณาจักร (NHS) ไม่ว่าจะเป็น อายุรแพทย์ จักษุแพทย์ จิตแพทย์ และพยาบาล
แพทย์รายหนึ่งที่โรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่งในลอนดอนซื้อปริญญาตรีด้านอายุรศาสตร์จากสถาบันเถื่อนในนาม
"มหาวิทยาลัยเบลฟอร์ด"
ในขณะที่แพทย์อีกคนหนึ่งบอกว่าเขาซื้อปริญญาด้านการจัดการโรงพยาบาล
แต่บอกว่าไม่ได้ใช้ใบวุฒิการศึกษานี้ในสหราชอาณาจักร
อย่างไรก็ตาม
ไม่มีข้อบ่งชี้ว่าพวกเขาเหล่านี้ไม่มีคุณวุฒิที่เหมาะสมสำหรับวิชาชีพทางการแพทย์
ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้น
แพทยสภาอังกฤษ
ระบุว่า เป็นเรื่องของผู้ว่าจ้างที่ต้องตรวจสอบใบวุฒิการศึกษาของพนักงานที่นอกเหนือไปจากปริญญาด้านการแพทย์
เจน
โรว์ลีย์ ประธานบริหารขององค์กรตรวจสอบปริญญาระดับการศึกษาขั้นสูง (Higher
Education Degree Datacheck) บอกว่า มีนายจ้างในสหราชอาณาจักรเพียง
20 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้นที่ตรวจสอบคุณวุฒิของผู้สมัครงานอย่างถี่ถ้วน เธอบอกว่า
แพทยสภาอังกฤษพูดถูกแล้วที่แพทย์สามารถประกอบอาชีพได้หากพวกเขามีปริญญาด้านการแพทย์
แต่การซื้อปริญญาอื่นที่เป็นของปลอมเป็นการฉ้อโกงและพวกเขาก็อาจถถูกดำเนินคดีได้
กฎหมายของสหราชอาณาจักรไม่ถือว่าการซื้อปริญญาปลอมเป็นความผิด
แต่การใช้เอกสารดังกล่าวในการสมัครงาน ถือเป็นการฉ้อโกง โดยการบิดเบือนความจริง
และมีโทษจำคุกถึง 10 ปี
เมื่อปี
2015 เอแซคขายหนังสือรับรองการศึกษาปลอมมากกว่า 2 แสนใบทั่วโลก
โดยให้ผ่านมหาวิทยาลัยและโรงเรียนปลอมราว 350 แห่ง และทำเงินได้ 51
ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.6 พันล้านบาท ในปีนั้น
อัลเลน
เอเซล อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ)
ซึ่งสืบสวนเรื่องเอแซคมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 80 บอกว่า
เราอยู่ในโลกที่สังคมให้ความสำคัญกับคุณวุฒิ และตราบใดที่กระดาษใบหนึ่งมีค่า
ก็จะมีคนพยายามปลอมแปลงและพิมม์มันออกมาเสมอ
เรื่องใหญ่หลวง
ระหว่างปี
2013-2015 บริษัทจัดซื้อจัดจ้างอาวุธและยุทธภัณฑ์ เอฟบี เฮลิเซอร์วิสเซส (FB
Heliservices) ซื้อใบปริญญาปลอมให้กับพนักงานตัวเอง 7 คน
โดยในจำนวนนั้นเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ 2 คน
ปริญญาปลอมที่ทางบริษัทต้มตุ๋นเสนอให้กับผู้สื่อข่าวบีบีซี
หนึ่งในพนักงานเหล่านั้นบอกกับบีบีซีว่า
ซื้อปริญญามาหลังจากได้สัญญาไปทำงานที่เกาะกือราเซาในทะเลแคริบเบียน
ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นกำหนดว่า ใครก็ตามที่จะทำงานที่นั่นต้องมีใบปริญญา
ในเวลาต่อมา
คอบแฮม บริษัทแม่ของเอฟบี เฮลิเซอร์วิสเซส ออกมาบอกว่า กรณีดังกล่าวเป็นกรณีที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ทางบริษัทได้จัดการกับประเด็นปัญหานั้นแล้ว
และบอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในการดำเนินการของบริษัทแต่อย่างใด
บทความเปิดโปงโดย
นสพ.นิวยอร์กไทมส์ เมื่อปี 2015 ทำให้ประธานบริหารของเอแซคถูกจับกุมและทำให้ทางการปากีสถานเริ่มต้นการสืบสวน
นายอูมาร์ ฮามิด ผู้จัดการอาวุโสของบริษัทถูกตัดสินจำคุก 21 เดือนในสหรัฐฯ
เมื่อเดือน ส.ค. ปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม
การสืบสวนโดยทางการปากีสถานก็ยุติลงท่ามกลางข้อกล่าวหาคอร์รัปชันของรัฐบาล
อัลเลน
เอเซล บอกว่า เอแซคยังคงดำเนินธุรกิจต่อไป
และสร้างมหาวิทยาลัยออนไลน์ปลอมขึ้นใหม่ตลอดเวลา
และถึงขั้นเริ่มมีการกรรโชกทรัพย์โดยขู่ว่าจะเปิดโปงความลับแล้ว
เซซิล
ฮอร์นเนอร์
วิศวรกรชาวอังกฤษที่เคยทำงานอยู่ซาอุดีอาระเบียถูกโทรศัพท์มาข่มขู่แม้กระทั่งหลังจากเขาจ่ายเงินเกือบ
5 แสนปอนด์ หรือราว 22 ล้านบาท เพื่อให้ได้เอกสารปลอมมา
นายฮอร์นเนอร์เสียชีวิตเมื่อปี 2015 และลูกชายของเขาเชื่อว่า
พ่อซื้อปริญญาเพราะว่ากลัวจะตกงาน
Action
Fraud ศูนย์แจ้งอาชญากรรมทางไซเบอร์ของสหราชอาณาจักรระบุว่า
ไม่มีอำนาจที่จะปิดเว็บไซต์ปลอมของเอแซค และต้องให้ข้อมูลหลักฐานกับผู้ให้บริการจดทะเบียนโดเมนเว็บไซต์แทน
ซึ่งต้องใช้เวลาหลายเดือน
โฆษกกระทรวงศึกษาธิการสหราชอาณาจักรระบุว่า
การโกงปริญญาเป็นการเอาเปรียบทั้งผู้ที่ตั้งใจศึกษาหาความรู้จริง ๆ และผู้ว่าจ้าง
และได้เริ่มลงมือปราบปราบผู้ที่หาประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้แล้ว
บีบีซีพยายามขอสัมภาษณ์เอแซค
แต่ไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด
Tiada ulasan:
Catat Ulasan