โดย นิอับดุลรากิ๊บ บนนิฮัสซัน
โดย นิอับดุลรากิ๊บ บนนิฮัสซัน
โดย นิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน
เยี่ยมนายอาหมัด ฟัตฮี อัล-ฟาตานี นักประวัติศาสตร์กลันตัน-ปาตานี ที่อำเภอตุมปัต รัฐกลันตัน มาเลเซียคณะศึกษาสืบค้นประวัติศาสตร์เมืองระแงะ จาก ศูนย์สมุทรรัฐเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มอ. ปัตตานี มีคุณ Na Nitchaya คุณ Sophia Hajisamae ร่วมกับ ศูนย์นูซันตาราศึกษา ประกอบด้วย Bean Sprouts Nik Kamal Bin Nik Hassan Nik Hamidi Nik Hassan และมีผู้ทรงคุณวุฒิ Azizan Mattahir ได้ร่วมเดินทางไปเยี่ยมนักเขียนอาวุโง นายอาหมัด ฟัตฮี อัล-ฟาตานี อดีตบรรณาธิการนิตยสาร Pengasuh นิตสารของคณะกรรมการอิสลามและจารีตประเพณีมลายูแห่งรัฐกลันตัน เป็นนิตยสารที่มีชื่อเสียงทั้งในรัฐกลันตัน และจังหวัดชายแดนภาคใต้ นิตยสาร Pengasuh พิมพ์ขึ้นครั้งแรกในปี 1918 จากการูดคุยกับนายอาหมัด ฟัตฮี อัล-ฟา ท่านก็ปฏิเสธว่า เมืองงระแงะในยุคลงดือรามาน ไม่น่าจะตั้งศูนย์อำนาจที่ชุมชนบ้านลือแฆะห์ อำเภอยือลี รัฐกลันตัน ส่วนจะตั้งที่ไหนนั้นไม่อาจทราบได้ ซึ่งจากการดูระยะเวลา จากการดูระยะเวลา จะเห็นว่า เหตุการณ์แยกปาตานีออกเป็น 7 หัวเมืองนั้นเกิดขึ้นราว 1816 หรือบวกลบเวลาใกล้เคียงนั้น ส่วนลงดือรามาน จะมีอำนาจอยู่ในช่วงทศวรรษที่ 1750 มีบันทึกถึงเหตุการณ์ช่วงนั้น คือก่อนปี 1758 ลงเดอรามัน (Long Deraman) เจ้าเมืองระแงะ ได้ฆ่าลงสุไลมาน (Long Sulaiman) เจ้าเมืองรัฐกลันตัน แล้วได้มอบอำนาจการปกครองรัฐกลันตันให้กับลงปันดัก (Long Pandak) และในปี 1758 ลงเดอรามัน (Long Deraman) เจ้าเมืองระแงะ ได้ฆ่าลงปันดัก (Long Pandak) เจ้าเมืองรัฐกลันตัน และในปี 1762 ลงยูนุส บุตรของลงสุไลมาน อดีตเจ้าเมืองรัฐกลันตัน ได้ยึดอำนาจการปกครองรัฐกลันตันที่เมืองโกตากูบังลาบู และสามารถฆ่าลงมูฮัมหมัด และลงเดอรามัน จะเห็นได้ว่า เหตุการณ์แยกปาตานีออกเป็น 7 หัวเมืองกับเหตุการณ์เกี่ยวกับลงดือรามาน มีช่วงเวลาห่างกัน ประมาณ 50 ปี ซึ่งคณะคณะศึกษาสืบค้นประวัติศาสตร์เมืองระแงะ ต้องศึกษาขั้นต่อไปเพื่อทำให้งานวิจัยมีความสมบูรณืขึ้นOleh Nik Abdul Rakib Bin Nik HassanPada
Pada 3 Ogos 2025 di Prince of Songkla University, Kampus Pattani mengadakan ReUni Alumni Bahasa Melayu dan Pengajian Melayu. Beberapa mantan pensyarah dan alumni memberi sedikit ceramah. Dalam keadaan sekarang, kita mesti berubah trend bukan hanya pelajar yang minat dalam bahasa Melayu mereka mesti mendalami ilmu Sosiobudaya Melayu, Ekonomi Melayu dll. Begitu juga pelajar yang minat ilmu Sosiobudaya Melayu, Ekonomi Melayu mereka mesti mendalami ilmu bahasa Melayu. Mereka mesti integrasi diantara bahasa Melayu dengan ilmu keusahawanan seperti orang Korea, Cina dan Jepun di negara mereka belajar bahasa Melayu itu adalah alat untuk perniagaan merek. Jurusan Bahasa Melayu dan Pengajian Melayu di PSU jika tidak mengubah trend, satu hari nanti akan ditelan zaman. Beberapa tahun lalu pernah mengadakan Program Keluarga Angkat di Negeri Pahang, Negeri Sembilan, Negeri Peraka. Dengan bantuan Dato’ Seri Ismail Sabri Yaakob, mantan Perdana Menteri Malaysia. Alhamdulillah peserta Program Keluarga Angkat dari Patani walaupun sudah belasan tahun berlalu. Dan mereka masih bersilaturrahim dengan membawa anak anaknya menziarah keluarga angkat di negeri-negeri tersebut.
โดย
นิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน
สัมผัสสุสานรายากูนิง เจ้าเมืองปาตานี ที่เมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน คณะศึกษาสืบค้นประวัติศาสตร์เมืองระแงะ จาก
ศูนย์สมุทรรัฐเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา
มอ. ปัตตานี มีคุณ Na
Nitchaya คุณ Sophia
Hajisamae ร่วมกับ
ศูนย์นูซันตาราศึกษา ประกอบด้วย Bean Sprouts Nik Kamal Bin Nik Hassan Nik Hamidi Nik
Hassan และมีผู้ทรงคุณวุฒิ Azizan Mattahir หลังจากคณะเราผิดหวังจากสุสานลงเดอรามัน
เจ้าเมืองระแงะ ที่ถูกรื้อเพื่อสร้างอาคารพาณิชย์ ครั้งนี้เราเดินทางไปเยี่ยมสุสานรายากูนิง
เจ้าเมืองปาตานี ในเมืองโกตาบารู
รัฐกลันตัน รายากูนิง ครองราชย์ ระหว่างปี 1635-1651 เป็นบุตรีของรายาอูงู
เจ้าเมืองปาตานีคนก่อน กับสุลต่านอับดุลฆาฟูร์ สุลต่านแห่งรัฐปาหัง รายากูนิงเป็นเจ้าเมืองปาตานีคนหนึ่งที่มีบทบาทคนหนึ่ง
โดยเฉพาะการค้าขายกับต่างประเทศ รายากูนิงจะมีเรือสินค้าเป็นของของตนเอง รายากูนิงได้แต่งงานกับรายามูดา
หรืออุปราชของรัฐโยโฮร์ แต่งงานกับรายามูดาแห่งรัฐโยโฮร์ในปี 2175 ต่อมารายากูนิงได้สละบังลลังค์ในปี 2194 และเดินทางกลับไปยังรัฐของบิดาตนเอง
คือ รัฐปาหัง แต่เมื่อเดินทางมาถึงรัฐกลันตัน ก็เจ็บป่วย และเสียชีวิต ถูกฝังไว้ที่รัฐกลันตัน
หวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างปาตานี-รัฐกลันตัน-รัฐปาหัง จะแน่นแฟ้นเหมือนในอดีต
โดย นิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน
เราค้นหาร่องรอยสุสานลงเดอรามัน เจ้าเมืองระแงะ ในเมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ได้รับคำบอกเล่าจากเพื่อนๆชาวมาเลเซียว่า ลงสุสานลงเดอรามัน เจ้าเมืองระแงะ ถูกรื้อทิ้งมาหลายปีแล้ว แต่คณะสืบค้นประวัติศาสตร์เมืองระแงะ ยังมีความหวัง เพราะเมื่อดูจากภาพจากกูเกิ้ล ยังมีภาพของสุสานลงเดอรามัน เจ้าเมืองระแงะ เป็นภาพ update เมื่อปี 2015 แต่เมื่อคณะสืบค้นประวัติศาสตร์เมืองระแงะ เดินทางไปยังสุสานลงเดอรามัน เจ้าเมืองระแงะ ปรากฏว่าสุสานลงเดอรามัน เจ้าเมืองระแงะถูกรื้อย้ายไปฝังยังที่อื่น ตั้งแต่ปี 2018 คณะสืบค้นประวัติศาสตร์เมืองระแงะ จึงได้แต่เก็บภาพร่องรอยสุสานดังกล่าวOleh Nik Abdul Rakib Bin Nik Hassan
Kali ini sekali lagi memukakan sebuah puisi dengan tujuk “Berkebun
di Kedai Kopi” puisi ini menggambarkan di sebuah kedai kopi di Selatan Thailand.
Situsi ini memang
berlaku di tahun 1980-an. Tetapi sekarang entah masih ada atau tidak. Isi
puisinya adalah seperti berikut:-
Berkebun di Kedai Kopi
Di kedai kopi
Sebagai sebuah parlimen di kampung
mencari kenikmatan sebuah impian
dalam harap mengharap waktu
kononnya harapan masih ada
menjadi sidang untuk sebuah bicara
di utara dan selatan kampung
timur dan barat datang ke kedai kopi
sidang inilah tempat dicurah isi
hati
maka menjadilah parlimen tidak rasmi
di kedai kopi ini
orang Patani datang bercucuk tanam
mencari kehidupan yang lebih bagus
datang bersama idea dan Cadangan bagus
bersilat lidah menjual idea dan cadangan
Berkebun di kedai kopi
Tempat pertemuan orang Patani di
sini
Dari pegawai tinggi hingga buruh umum
Dari penerima pendidikn kerajaan
hingga penerima pendidikan agama
semuanya datang untuk bicara di sini
kedai kopi ini parlimen kampung
semua datang memperkatakan ilmu
mempersoal pembangunan kehidupan
beberapa soalan diketengahkan
Pembangunan pendidikan
Pembangunan ekonomi
Pembangunan pertanian
Setiap hari menjadi agenda
perjumpaan
Berkebun di kedai kopi
Kita berbicara berkebun di pagi ini
Sambil minum teh tarik
Roto canai sangat enak
ada nasi lemak nasi dagang
perbincangan tiada sudahnya
Pak Jo menanam ribuan pokok durian
Pak Ju menanam ribuan pokok dokong
mereka mimpi menjual durian dokong
semua kita hanya berkebun di atas
angin
akhir kita hanya berkebun di kedai
kopi
Patani, Thailand Selatan.
Oleh Nik Abdul Rakib Bin Nik Hassan
Kali ini akan kemukakan sebuah puisi tajuknya Wawasan Patani oleh Hamra Hassan. Puisi ini lahir dari idea memperjuangkan bahasa Melayu di Patani, Selatan Thailand oleh Dr. Phaosan Jehwe Dan mendapat ilham dari sebuah puisi dari Sdr Haji Jawawi dari Brunei. Inilah sebuah puisi dengan tajuk “Wawasan Patani”
Wawasan Patani
Bahasa Melayu Bahasaku di Patani
Bahasanya lembut penuturannya indah
Bahasa Melayu bahasa perpaduan rumpunku
Bahasa penghubung antara Nusantara
Bahasa Melayuku Bahasa ibunda
tiada bahasa Melayuku hilanglah Melayu di bumi Patani
megah bertapak bahasa Melayu di Nusantara
mengharum wangi ke seluruh Nusantara
Bahasa Melayu bahasa bumi Patani
lambang maruah bumi pertiwi
jadilah bumi Patani ini sebagai tanah Melayu
bahasa Melayu bangsa Melayu sebagai pasaknya
Bahasa Melayu Bahasaku di Patani
apakah wawasan pemuda untuk menjunjung
agar ia dapat menembusi dunia
dengan bermadah lantang dan lembut bicaranya
Bahasa Melayu kebanggaanku di bumi
Patani
bahasa Melayu jangan diganti bahasa asing
kerana bahasa Melayu melambangkan bangsa
Pemuda Patani menjagalah Warisan Patani
Hamra Hassan
Patani,
Thailand Selatan.
โดย นิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน
สืบค้นประวัติศาสตร์เมืองระแงะ ตอนที่ 3
พบปะนักวิชาการระดับศาสตราจารย์ ดร.
ชาวมาเลเซีย เชื้อสายไทยพุทธ
คณะศึกษาสืบค้นประวัติศาสตร์เมืองระแงะ จาก ศูนย์สมุทรรัฐเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา
มอ. ปัตตานี มีคุณ Na Nitchaya คุณ Sophia
Hajisamae ร่วมกับ ศูนย์นูซันตาราศึกษา
ได้เริ่มเข้าไปสัมผัสมหาวิทยาลัยมาเลเซียกลันตัน วิทยาเขตอำเภอยือลี รัฐกลันตัน
เหตุที่พวกเราเข้าไปสัมผัสมหาวิทยาลัย
เพราะนอกจากพวกเราทำการศึกษาค้นคว้าในเรื่องประวัติศาสตร์แล้ว
พวกเรายังต้องดูด้านการพัฒนาการศึกษา การพัฒนาด้านเศรษฐกิจด้วย
เพื่อเปรียบเทียบระหว่างเมืองระแงะเก่า ที่อยู่ฝั่งจังหวัดนราธิวาส และรัฐกลันตัน
มหาวิทยาลัยมาเลเซียกลันตัน วิทยาเขตอำเภอยือลี เริ่มเปิดเต็มตัวเมื่อ 1 มกราคม 2012 มีเนื้อที่ 279 เอเคอร์
(669 ไร่) มีคณะอยู่
3 คณะ คือ คณะอุตสาหกรรมเกษตร คณะธรณีศาสตร์
และคณะวิศวกรรมชีวภาพและเทคโนโลยี พวกเราได้ประสานกับอดีตรองอธิการของมหาวิทยาลัย
คณะเราจึงได้เข้าพบผู้อำนวยการวิทยาเขตของมหาวิทยาลัยมาเลเซียกลันตัน
ซึ่งถ้าในประเทศไทย คงเป็นรองอธิการบดีวิทยาเขต เพราะประเทศไทยตำแหน่งรองอธิการบดีในบางมหาวิทยาลัยค่อนข้างจะเฟ้อ
ที่มหาวิทยาลัยวิทยาเขตอำเภอยือลี มีผู้อำนวยการ เป็นชาวมาเลเซีย เชื้อสายไทยพุทธ
หรือที่เรียกว่า ชาวสยาม คือ ศาสตราจารย์ ดร. Aweng A/L Eh Rak ถ้าแปลเป็นเป็นไทย ก็ ศาสตราจารย์ ดร. อาเว็ง บุตรชายไอ้รักษ์ เลยถามว่า ท่านอาจารย์มีชื่อทางภาษาไทยว่า อะไร
ท่านตอบว่า ศาสตราจารย์ ดร. วิน ศรีสุวรรณ
โดย นิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน
คณะศึกษาสืบค้นประวัติศาสตร์เมืองระแงะ จาก
ศูนย์สมุทรรัฐเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา
มอ. ปัตตานี ร่วมกับ ศูนย์นูซันตาราศึกษา
เริ่มต้นเยี่ยมสุสานนิอาดัส เจ้าเมืองสายบุรีที่อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส
เจ้าเมืองผู้เป็นพี่ชายของนิดียะห์ (?) เจ้าเมืองระแงะ
ที่มีศูนย์อำนาจ ซึ่งสถานที่ตั้งศูนย์อำนาจมีสองเวอร์ชั่น ที่ต้องสืบค้นต่อไป
สิ่งที่เห็นว่า ยังมีความผิดพลาดคือ ยังเขียนว่า สุสานเจ้าเมืองยี่งอ
ทั้งที่ความจริง สมควรเขียนว่า สุสานเจ้าเมืองสายบุรี สมัยศูนย์อำนาจอยู่ที่ยี่งอ
ดังที่ปรากฏในบันทึกของพงศาวดารเมืองปัตตานี ในประชุมพงศาวดารภาคที่ 3 ( หน้า 13 ปี 2473) และหนังสือของ อ. บางนรา (หน้า 62 ปี 2523)
นิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน
คำว่าเงิน ในภาษามลายูจะเรียกว่า ดูวิต สำหรับในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเรียกว่า ดูวิ ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ จะรู้จัก ดูวิ ภาษามลายูส่วนหนึ่งนอกจากยืมคำภาษาอาหรับ ภาษาอังกฤษ ภาษาโปร์ตุเกส แล้วก็มียืมมาจากภาษาฮอลันดา คำว่า ดูวิต ดูวิ มาจากคำภาษาฮอลันดา เดิมคำว่า ดูวิต ดูวิ เป็นชื่ออัตราเงินของเจ้าอาณานิคมฮอลันดา หรือ VOC (Vereenigde Oostindische Compagnie) ที่ใช้ในอาณานิคมอินโดเนซีย กล่าว่า คำว่า ดูวิต ดูวิ มีการใช้ในอินโดเนเซีย ตั้งแต่ปี 1726 ภาษามลายูที่ใช้ในจังหวัดชายแดนภาคใต้จึงไม่ใช่ภาษาของคนชายขอบ แต่ถ้าคนที่ใช้มีการพัฒนาภาษาให้ดีขึ้น จะเป็นภาษาที่สามารถจะใช้สื่อสารทั้วโลกมลายู Malay Archipelago (อินโดเนเซีย มาเลเซีย บรูไน มลายูสิงคโปร์)
โดย นิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน
ปาตานีและปาหัง สองแห่งแรกที่เข้ารับศาสนาอิสลาม
J.V. Mills เขียนบทความถึงบันทึกของ Godinho
De Eredia ในบทความเรื่อง "Eredia Description of
Malacca" ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารของ the Malayan Branch of
the Royal Asiatic Society ตีพิมพ์เมื่อปี 1930 หน้า 49 โดยกล่าวว่า De Eredia ซึ่งเป็นชาวโปรตุเกส บันทึกไว้ในปี 1613 ว่า
“ยิ่งกว่านั้น ศรัทธาแห่งมูฮัมหมัด (อิสลาม)
ได้รับการยอมรับในปาตานี และปาหัง บนชายฝั่งตะวันออกของรัฐโยโฮร์
และในเกาะบางเกาะในหมู่เกาะที่มีกลิ่นหอม (น่าจะหมายถึงเครื่องเทศ)
โดยเฉพาะในส่วนของบันตัมในเกาะชวา
ต่อมาได้รับการยอมรับและสนับสนุนโดยพระราชินีของรัฐมะละกาในปี ค.ศ. 1411
ความสัมพันธ์ระหว่างปาตานีกับรัฐตรังกานู
ในประวัติศาสตร์ ได้บันทึกว่า
สุลตานซัยนาลอาบีดิน (Sultan Zainal Abidin) ซึ่งครองราชย์ระหว่าง 1725-1733
เป็นลูกบุญธรรมเจ้าเมืองปาตานี และได้แต่งงานกับนางรูกายะห
ลูกพี่ลูกน้องเจ้าเมืองปาตานี การขึ้นครองรัฐตรังกานูของสุลตานซัยนาลอาบีดิน
มีผลทำให้มีผู้ติดตามชาวปาตานเดินทางไปตั้งถิ่นฐานในรัฐตรังกานูด้วย
เจ้าเมืองปาตานีจึงส่งผู้ติดตามชาวปาตานีเป็นจำนวน 80 ครอบครวไปยังรัฐตรังกานู
สําหรับชาวปาตานีที่อพยพมาพร้อมตุนซัยนาลอาบีดิน
ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่หมู่บ้านปาตานี แม้ปัจจุบันหมู่บ้านจะไม่มีอีกแล้ว
แต่ยังมีป้ายชื่อถนนบริเวณนั้นชื่อว่า ถนนปาตานี