เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ผู้เขียนได้รับหนังสือเชิญจากดาโต๊ะวีรา ฮัจญีฮารุน อิดริส มุขมนตรีแห่งรัฐมะละกา ในฐานะประธานฝ่ายเยาวชนขององค์การโลกมลายูโลกอิสลามให้ส่งเยาวชน
นักศึกษาเข้าร่วมโครงการค่ายเยาวชนองค์การโลกมลายูโลกอิสลาม (Dunia Melayu Dunia Islam) ระหว่างวันที่ 24-30 ตุลาคม 2013 ดังนั้นผู้เขียนจึงถือว่าเป็นโอกาสของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
วิทยาเขตปัตตานีที่ผู้เขียนทำงานอยู่
จะได้มีโอกาสเข้าร่วมหาประสบการณ์ในค่ายเยาวชนครั้งนี้ ผู้เขียนได้ร่วมงาน ร่วมกิจกรรมขององค์การโลกมลายูโลกอิสลามมาราว
8 กว่าปีแล้ว ดังนั้นถือเป็นเรื่องปกติที่ทางองค์การโลกมลายูโลกอิสลาม
ซึ่งเป็นองค์กรหน่วยงานรัฐที่สังกัดสำนักมุขมนตรีแห่งรัฐมะละกา จะต้องเชิญร่วมงาน
ในการคัดเลือกผู้เข้าเรียนค่ายเยาวชนครั้งนี้
โดยที่ผู้เขียนได้ใช้วิธีเปิดโอกาสให้นักศึกษาวิชาเอกมลายูศึกษา
นักศึกษาวิชาโทมลายูศึกษา และนักศึกษาวิชาเอกภาษามลายู การคัดเลือกโดยใช้นักศึกษาแกนนำแต่ละคนเป็นผู้รวบรวมรายชื่อ การคัดเลือกมีปัญหาบ้าง บางคนต้องการเดินทางเข้าร่วมแต่ไม่มีพาสปอร์ต
บางคนต้องการเข้าร่วมแต่ทำพาสปอร์ตแล้ว พาสปอร์ตยังไม่ได้รับ ทำให้ไม่สามารถเดินทางร่วมได้
เมื่อได้จำนวนนักศึกษาแล้ว
จึงส่งรายชื่อไปยังรัฐมะละกา ด้วยจำนวนนักศึกษามีถึง 28 คน
ซึ่งถือว่ามีจำนวนมาก ลำบากในการเคลื่อนย้าย
ดังนั้นผู้เขียนจึงตรวจสอบเส้นทางการเดินทางที่น่าจะสะดวกที่สุด
มีเส้นทางหลายเส้นทางที่จะไปรัฐมะละกา เช่น
1. โดยสารรถตู้จากปัตตานีไปหาดใหญ่
และขึ้นรถบัสจากหาดใหญ่ไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์
และจากสถานีรถบัสในกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังสถานีขนส่งสายใต้ (Terminal Bersepadu Selatan) จากนั้นจึงขึ้นรถบัสไปยังรัฐมะละกา
ความลำบากจะอยู่ที่การเคลื่อนย้ายจากสถานีขนส่งในตัวเมืองไปยังสถานีขนส่งสายใต้
2. โดยสารรถตู้หรือรถสองแถวเพื่อประหยัดไปยังตลากตากใบ
อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส จากนั้นข้ามแม่น้ำสุไหงโกลกไปยังตลาดปังกาลันกูโบร์
อำเภอตุมปัต รัฐกลันตัน มาเลเซีย จากนั้นมี 2 ทางเลือก คือ
ขึ้นรถบัสบางบริษัทที่ตลาดปังกาลันกูโบร์
หรือเดินทางด้วยรถบัสไปยังตัวเมืองโกตาบารู เมืองเอกของรัฐกลันตัน
จากนั้นขึ้นรถบัสที่เมืองโกตาบารูไปยังรัฐมะละกา
สุดท้ายก็เลือกเส้นทางที่สอง
โดยกำหนดให้นักศึกษาขึ้นรถที่ตลาดปังกาลันกูโบร์ตรงไปยังรัฐมะละกา โดยให้นักศึกษาผู้รับผิดชอบเป็นผู้ประสานกับคนขายตั๋วรถบัส
ประสานกับรถสองแถวที่จะใช้ในการเดินทางจากปัตตานีไปยังตลาดตาบา
หลังจากนั้นจึงแจ้งกำหนดการของงานค่ายเยาวชนองค์การโลกมลายูโลกอิสลามที่ทางรัฐมะละกาส่งมา
ซึ่งได้รับการแจ้งว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงความความเหมาะสมและเป็นจริง ซึ่งมีกิจกรรมต่างๆดังต่อไปนี้
วันที่ 24 ตุลาคม
2013
ช่วงเช้าถึงเย็นจะเป็นการลงทะเบียนเยาวชนที่มาจากประเทศต่างๆ
เพราะมาจากหลากหลายประเทศและเวลาที่มาถึงรัฐมะละกาก็แตกต่างกัน
เช่นจากประเทศมาเลเซียเจ้าภาพ อินโดเนเซีย สิงคโปร์ จังหวัดชายแดนภาคใต้
อัฟริกาใต้ ศรีลังกา สำหรับคณะนักศึกษามลายูศึกษาเดินทางถึงรัฐมะละกาในช่วงเช้า
หลังจากนั้นทางคณะจัดงานได้เดินทางมารับที่สถานีขนส่งมะละกาเซนตรัล (Melaka Sentral) แล้วไปส่งที่หมู่บ้านครอบครัวอุปถัมภ์
ด้วยปีนี้มีเยาวชนจากประเทศอินโดเนเซียค่อนข้างมากเกินไป มีจำนวนถึง 370 คน
ดังนั้นจึงมีผลกระทบกับคณะนักศึกษามลายูศึกษาทำให้ต้องแบ่งนักศึกษากับนักศึกษาหญิงออกเป็นเพียง
2 บ้าน จากเดิมๆที่มีการแยกกันอยู่คนละบ้าน
พอช่วงเย็น
ศาตราจารย์ ดร. อาบูบาการ์ มูฮัมหมัดดียะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี่ และนวัตกรรมของมาเลเซีย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเจ้าของเขตพื้นที่
ทำพิธีมอบเยาวชนให้กับบรรดาครอบครัวอุปถัมภ์ของหมู่บ้านปายารุมปุตจายา (Kampung Paya Rumput Jaya)
วันที่ 25 ตุลาคม 2013
ช่วงเช้าทำกิจกรรมพัฒนาพื้นที่บริเวณหมู่บ้าน
สันทนาการกับครอบครัวอุปถัมภ์
ช่วงกลางคืนทำพิธีเปิดโครงการค่ายเยาวชนองค์การโลกมลายูโลกอิสลาม (Dunia Melayu Dunia Islam) โดยนายไครี ยามาลุดดิน บินอาบูบาการ์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและการกีฬาของมาเลเซีย เป็นผู้เปิดพิธี และนายดาโต๊ะวีรา
ฮัจญีฮารุน อิดริส มุขมนตรีแห่งรัฐมะละกา
ในฐานะประธานฝ่ายเยาวชนขององค์การโลกมลายูโลกอิสลามได้กล่าวการต้อนรับเยาวชนจากประเทศต่างๆ
วันที่ 26 ตุลาคม 2013
ช่วงเช้าไปเยี่ยมการประกอบอุตสาหกรรมครอบครัว เดินทางไปเยี่ยมพิพิธภัณฑ์ฮังตูวะห์
ช่วงบ่ายเดินทางไปชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในตัวเมือง และช่วงกลางคืนมีการแสดงทางวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ
วันที่ 27 ตุลาคม 2013
ช่วงเช้าคณะเยาวชนประเทศต่างๆได้เข้าร่วมการสัมมนา
ซึ่งแบ่งออกเป็นหลากหลายสถานที่ ทั้งฝ่ายศาสนา สตรี ด้านภาษา
สำหรับคณะนักศึกษามลายูศึกษาได้เดินทางไปเข้าร่วมการสัมมนาด้านภาษามลายู
ช่วงกลางคืนจะเป็นพิธีปิดโครงการค่ายเยาวชนองค์การโลกมลายูโลกอิสลาม (Dunia Melayu Dunia Islam) โดยดาโต๊ะวีรา ฮัจญีฮารุน อิดริส มุขมนตรีแห่งรัฐมะละกา ในฐานะประธานฝ่ายเยาวชนขององค์การโลกมลายูโลกอิสลาม
จะทำหน้าที่พิธีปิด และมอบประกาศนียบัตรแก่เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการค่ายเยาวชนองค์การโลกมลายูโลกอิสลาม
(Dunia Melayu Dunia Islam)
วันที่ 28 ตุลาคม 2013
ช่วงเช้าคณะนักศึกษามลายูศึกษาได้เข้าร่วมงานประชุมใหญ่ขององค์การโลกมลายูโลกอิสลาม
(Dunia Melayu Dunia Islam) โดยแต่ละคนจะได้รับกระเป๋าเป้คนละใบ
หลังจากนั้นก็เข้าร่วมการเสวนา ซึ่งทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่ายจะเป็นการเสวนาของฝ่ายต่างๆ
โดยผูเขียนบังคับให้นักศึกษาเข้าร่วมในการเสวนาของฝ่ายเศรษฐกิจ อย่างน้อยเราก็จะได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจบ้าง
วันที่ 29 ตุลาคม 2013
ช่วงเช้าคณะนักศึกษามลายูศึกษาได้เข้าร่วมงานประชุมใหญ่ขององค์การโลกมลายูโลกอิสลาม
(Dunia Melayu Dunia Islam) หลังจากนั้นก็เข้าร่วมการเสวนา
ซึ่งทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่ายจะเป็นการเสวนาของบุคคลจากประเทศต่างๆ สำหรับผู้เขียนได้ร่วมเสวนากับหัวข้อเรื่อง “Pendidikan dan Ekonomi Dalam Mewujudkan Keamanan dan Ksejahteraan Umat
Melayu Umat Islam”
โดยร่วมเสวนากับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา
ตัวแทนชาวมลายูศรีลังกา รองประธานองค์กร Jamiah Singapura จากประเทศสิงคโปร์
โดยมีศาตราจารย์ ดร. อาบูบาการ์ มูฮัมหมัดดียะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี่ และนวัตกรรมของมาเลเซีย เป็นผู้ดำเนินการเสวนา
วันที่ 30 ตุลาคม 2013
ช่วงเช้าจะเป็นการสรุปผลจากการจัดประชุมใหญ่ขององค์การโลกมลายูโลกอิสลาม
(Dunia Melayu Dunia Islam) หลังจากนั้นจะมอบของที่ระลึกให้แก่ตัวแทนผู้เข้าร่วมจากประเทศต่างๆ หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จ ราวเที่ยงกว่าๆคณะนักศึกษาและเยาวชนจากประเทศต่างๆเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านของครอบครัวอุปถัมภ์
โดยคณะนักศึกษามลายูศึกษาทางครอบครัวอุปถัมภ์ได้พาไปเลี้ยงอาหารที่บริเวณช่องแคบมะละกา หลังจากนั้นจึงขึ้นรถบัสที่สถานีขนส่งมะละกาเซนตรัล
(Melaka Sentral)เดินทางไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ และจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ขึ้นรถบัสกลับไปยังรัฐกลันตัน
โดยรถบัสมีปลายทางที่ตลาดปังกาปันกูโบร์
เมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 31 ตุลาคม
2013 ก็เดินทางถึงตลาดปังกาปันกูโบร์ จากนั้นข้ามแม่น้ำสุไหงโกลกไปยังตลาดตาบา อำเภอตากใบ
จังหวัดนราธิวาส คณะนักศึกษาลงมติขอกลับปัตตานีด้วยรถตู้
เพราะค่อนข้างเหนื่อยกับการเดินทางครั้งนี้
สิ่งที่ได้จากการเข้าร่วมค่ายเยาวชนองค์การโลกมลายูโลกอิสลาม
(Dunia Melayu Dunia Islam)
1. นักศึกษาได้มีครอบครัวอุปถัมภ์ในรัฐมะละกา
ในโอกาสต่อไป เมื่อจะเดินทางไปยังรัฐมะละกา ก็มีครอบครัวอุปถัมภ์ จึงไม่จำเป็นต้องหาโรงแรม
ความสัมพันธ์นี้เป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนบุคคลที่แต่ละคนต้องสานกันเอง
Tiada ulasan:
Catat Ulasan