โดย นิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน
สำหรับเรื่องของเด็กข้างถนน หรือเด็กเร่ร่อนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ไม่หนักหนาสาหัสเหมือนเด็กข้างถนน หรือเด็กเร่ร่อนในประเทศอินโดเนเซีย
แต่มาทำให้รู้จักโรงเรียนสำหรับเด็กข้างถนนในอินโดเนเซีย อย่างน้อยจะได้รับรู้ถึงสภาพของเด็กข้างถนน
หรือเด็กเร่ร่อนในประเทศอินโดเนเซียบ้าง
เด็กข้างถนน หรือเด็กเร่ร่อนเป็นคำที่หมายถึงเด็กที่ดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจตามท้องถนน แต่ยังคงมีความสัมพันธ์กับครอบครัว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีคำจำกัดความใดที่สามารถใช้อ้างอิงได้ อีกคำนิยามหนึ่งมาจากคุณโซดีจาร์โต (Soedijarto) ในหนังสือของเขาชื่อว่า Pendidikan Sebagai Sarana Reformasi Mental Dalam Upaya Pembangunan Bangsa พิมพ์ในปี 1998 กล่าวว่า เด็กข้างถนน หรือเด็กเร่ร่อนที่มีอายุระหว่างเจ็ดถึงสิบห้าปีที่พวกเขาเลือกที่จะทำมาหากินข้างถนน ซึ่งมักจะสร้างความขัดแย้งในเรื่องความสงบ ความสงบ และความสบายใจของคนรอบข้าง และไม่บ่อยนักที่จะเป็นอันตรายต่อตัวเขาเอง
สำหรับในอินโดเนเซียโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองใหญ่
คุณมักจะพบเด็กข้างถนน หรือเด็กเร่ร่อนร้องเพลง ขอทาน ขายของ หรือออกไปเที่ยวกับเพื่อนของพวกเขา
ในปี 2549 มีเด็กอายุต่ำกว่า 18
ปี ถึง 78.96 ล้านคน คิดเป็น 35.5 % ของประชากรทั้งหมดของประเทศอินโดเนเซีย มากถึง 40 % หรือ
33.16 ล้านคนอาศัยอยู่ในเขตเมือง และ 45.8 ล้านคนที่เหลือ จะอาศัยอยู่ในเขตชนบท จากรายงานของกระทรวงกิจการสังคมในปี 2547
เด็ก 3,308,642 คนถูกจัดอยู่ในประเภทเด็กที่ถูกทอดทิ้ง
เมื่อเราเห็นเด็กข้างถนน หรือเด็กเร่ร่อน เราจะคิดว่าพวกเขามาจากไหน แล้วพ่อแม่ของเขาอยู่ที่ไหน แต่คุณเคยคิดบ้างไหมว่าการศึกษาของพวกเขาเป็นอย่างไร พวกเขาได้รับการศึกษาหรือไม่ เนื่องจากสิทธิของพวกเขาระบุไว้ในรัฐธรรมนูญของอินโดเนเซีย ฉบับปีพ.ศ. 2488 มาตรา 31 วรรค 1 และ 2 ซึ่งระบุว่า พลเมืองทุกคนมีสิทธิในการศึกษา พลเมืองทุกคนมีหน้าที่ต้องเข้ารับการศึกษาขั้นพื้นฐานและรัฐบาลมีหน้าที่จัดหาเงินทุนให้
การศึกษาดูจะเป็นสิ่งที่มองข้ามของเรา เมื่อเป็นเรื่องของเด็กข้างถนน
หรือเด็กเร่ร่อน บ่อยครั้งที่เจ้าหน้าที่จะทำการปรามเด็กข้างถนน หรือเด็กเร่ร่อน ไม่ให้รบกวนชุมชน
อย่างไรก็ตาม ต้นตอของปัญหาคือความยากจน โดย ณ เดือนมีนาคม 2557 จำนวนคนจนในอินโดเนเซียมีมากถึง 28.82
ล้านคน และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการบุกจับ ปรามเพียงอย่างเดียว
วิธีหนึ่งที่สามารถทำได้เพื่อเป็นมาตรการขจัดความยากจนของพวกเขา นั้นคือการให้การศึกษา
เด็กข้างถนน หรือเด็กเร่ร่อนส่วนใหญ่เป็นเด็กที่มาจากครอบครัวที่ด้อยโอกาส ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้พวกเขาจำเป็นที่ต้องทำมาหากิน การศึกษาในระบบอาจไม่ใช่ทางเลือก แต่ไม่สามารถจัดการศึกษาผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการได้ ซึ่งการศึกษาตามอัธยาศัยจะดำเนินการผ่านการศึกษาของครอบครัวและสิ่งแวดล้อมในรูปแบบของกิจกรรมการเรียนรู้อิสระนอกโรงเรียน อิบนู ชมซี (Ibnu Syamsi) ได้เขียนบทความเรื่อง Pendidikan Luar Sekolah Sebagai Pemberdaya Dalam Masyarakat ลงในวารสาร Jurnal Pendidikan Luar Sekolah พิมพี 2010 กล่าวว่าการศึกษานอกโรงเรียนเป็นการบริการการศึกษาที่จัดขึ้นนอกโรงเรียน ดำเนินไปตลอดชีวิต ดำเนินการโดยตั้งใจ สม่ำเสมอ และวางแผนโดยมีเป้าหมายเพื่อให้ศักยภาพของมนุษย์เป็นจริงเพื่อปรับปรุงสวัสดิการ
การศึกษาตามอัธยาศัยสำหรับเด็กข้างถนน หรือเด็กเร่ร่อนจัดได้ว่าเป็นการศึกษาโดยชุมชน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เพื่อหาคำตอบ เราต้องรู้เกี่ยวกับการศึกษาโดยชุมชนเสียก่อน โดย เอ. พงตูลูรัน และ ที.เค. บราฮิม (A. Pongtuluran & T.K. Brahim) เขียนบทความเรื่อง Pendekatan Pendidikan Berbasis Masyarakat ลงในวารสาร Jurnal Pendidikan Penabur พิมพ์ปี 2002 กล่าวว่า การศึกษาโดยชุมชนเน้นให้ชุมชนกำหนดนโยบาย และมีส่วนร่วมในการแบกรับภาระการศึกษาร่วมกับชุมชนท้องถิ่นทั้งหมด ในการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพสำหรับบุตรหลานของตน
และคุณเดเดน มักบุลเลาะห์ ( Deden Makbuloh) ได้เขียนบทความเรื่อง Model Pendidikan Islam Berbasis Masyarakat ลงในวารสาร Jurnal Pengembangan Masyarakat Islam พิมพ์ปี 2008 กล่าวว่าการศึกษาโดยชุมชนไม่สามารถแยกออกจากมุมมองที่ว่าการศึกษาโดยพื้นฐานแล้วเป็นกิจกรรมทางสังคม การศึกษาสำหรับเด็กเร่ร่อนเป็นกิจกรรมทางสังคมที่มักดำเนินการโดยองค์กรพัฒนาเอกชนหรือกลุ่มบางกลุ่มที่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนที่ดูแลเด็กเร่ร่อนเอง
การศึกษามีความสำคัญต่อเด็กข้างถนน หรือเด็กเร่ร่อนอย่างไร ดังนั้น เราต้องรู้เป้าหมายที่การศึกษาต้องบรรลุ ทางเฮอร์เบิร์ต สเปนเซอร์ (Herbert Spencer) เขียนลงในหนังสือของ D.J. Moran & Richard W. Malott เรื่อง Evidence-Based Educational Method พิมพ์ในปี 2004 กล่าวว่าเป้าหมายของการศึกษาไม่ใช่ความรู้ แต่เป็นการกระทำที่แสดงออกในพฤติกรรม สภาพแวดล้อมทางการศึกษาคาดว่าจะเปลี่ยนพฤติกรรมของบุคคล หากสามารถเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของเด็กข้างถนน หรือเด็กเร่ร่อนได้ นั่นคือก้าวหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขา ไม่ใช่เด็กข้างถนน หรือเด็กเร่ร่อนไม่กี่คนที่ประพฤติตัวในทางลบ เช่น รักอิสระ เมาสุรา เป็นต้น พฤติกรรมนี้ไม่ควรปรากฏขึ้นเมื่อพิจารณาจากอายุที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
การศึกษาที่จะช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กข้างถนน หรือเด็กเร่ร่อนให้เกิดขึ้นได้ในรูปแบบต่างๆ นี่อาจเป็นการสร้างโรงเรียนฟรี เช่น SAJA หรือ Sahabat Anak Jalanan เป็นโรงเรียนเด็กข้างถนน หรือเด็กเร่ร่อน ในเขตเปินจาริงงัน (Penjaringan) กรุงจาการ์ตาเหนือ สร้างบ้านพัก หรือบริจาคเพื่อสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้ของเด็กข้างถนน หรือเด็กเร่ร่อน ที่ดำเนินการโดย KOPPAJA (Komunitas Peduli Pendidikan Anak Jalanan) หรือ กลุ่มดูแลเพื่อการศึกษาเด็กข้างถนนหรือเด็กเร่ร่อน อย่างไรก็ตาม การศึกษารูปแบบใดที่เป็นสิทธิของประชาชนทุกคน เด็กข้างถนน หรือเด็กเร่ร่อนจะไม่ถูกทอดทิ้ง ดังนั้นต้องมีการชับไวต่อสภาพของเด็กข้างถนน หรือเด็กเร่ร่อน หรือช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้เพื่อให้เด็กเร่ร่อนได้รับการศึกษาเหมือนเด็กคนอื่นๆ เราต้องจำไว้ว่าก้าวเล็กๆ ก้าวเดียว คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
อ้างอิง :
Anak Jalanan. (2014). Wikipedia [on-line]. Diakses pada 10 Juli 2014 dari http://id.wikipedia.org/wiki/Anak_jalanan.
Berita Resmi Statistik. (2014, 1 Juli). BPS
[on-line]. Diakses pada tanggal 13 Juli 2014 dari
http://webbeta.bps.go.id/index.php.
Data Jumlah Anak Jalanan di Indonesia. (2010,
27 Juli). Berita Lampung [on-line]. Diakses pada tanggal 13 Juli 2014 dari
http://berita-lampung.blogspot.com/2010/07/data-jumlah-anak-jalanan-di-indonesia.html.
Makbuloh, Deden. (2008). Model Pendidikan
Islam Berbasis Masyarakat. Jurnal Pengembangan Masyarakat Islam , 3 (1), 5-18.
Moran, D.J., & Malott, Richard W. (2004).
Evidence-Based Educational Method. USA: Academic Press.
Pengertian Anak Jalanan Dari Para Ahli Secara
Garis Besar. (2014, 19 April). Caksandi [on-line]. Diakses pada tanggal 10 Juli
2014 dari
http://caksandi.com/pengertian-anak-jalanan-dari-para-ahli-secara-garis-besar/.
Pongtuluran, A., & Brahim, T.K. (2002).
Pendekatan Pendidikan Berbasis Masyarakat. Jurnal Pendidikan Penabur, 1,
117-124.
Soedijarto. (1998). Pendidikan
Sebagai Sarana Reformasi Mental Dalam Upaya Pembangunan Bangsa. Jakarta:
Balai Pustaka.
Syamsi, Ibnu. (2010). Pendidikan Luar Sekolah
Sebagai Pemberdaya Dalam Masyarakat. Diklus, Jurnal Pendidikan Luar Sekolah, 14
(1), 59-68.
Tiada ulasan:
Catat Ulasan