โดย นิอับดุลรากิ๊บ  บินนิฮัสซัน
เพิ่งในปี  1989
ความขัดแย้งในอาเจะห์ออกสู่ต่อสาธารณชนอย่างเปิดเผยในขณะนั้นมีการทำโครงการกองทัพ  อินโดนีเซียเข้าสู่ทปูทัน ( ABRI  Masuk  Desa  หรือ AMD )  ที่หมู่บ้านโกตามะมูร์  
อาเจะห์เหนือไม่ไกลจากเมืองอุตสาหกรรมโละซือมาเว  มีอดีตทหารยศสิบตรีที่ใช้ชื่อว่าโรเบิร์ต
ได้เปิดเผยตัวและเรียกตนเองว่าเป็นผู้บัญชาการรบของขบวนการอาเจะห์เสรี   ( AGAM )
ซึ่งเป็นปีกทหารของขบวนการอาเจะห์เสรี 
โรเบิร์ตพร้อมผู้สนับสนุนได้จู่โจมสมาชิกกองทัพอินโดนีเซียที่กำลังดำเนินโครงการกองทัพอินโดนีเซียเข้าสู่หมู่บ้าน  อาวุธจำนวน 
18 กระบอกของสมาชิกกองทัพอินโดนีเซีย  
ถูกพวกเขายึดแล้วพาหนีเข้าป่า  
ความจริงแล้วโรเบิร์ตไม่ใช้ชื่อปกติของชาวอาเจะห์  โดยรวมแล้วนับคือศาสนาอิสลาม 
ด้วยเหตุนี้โรเบิร์ตจึงได้ก่อการร้ายที่โน้นที่นี้ก่อนจะพาหนีไปยังประเทศมาเลเซีย 
เขานั้นเองที่ทำให้เกิดพื้นที่ปฏิบัติการทางการทหาร  (  Daerah  operasi 
M iliter ) ที่ดินแดนที่ร่ำรวยด้วยทรัพยากรก๊าซธรรมชาติ   ความจริงแล้ว 
ขณะนั้นอาเจะห์เหนือกำลังจะไปสู่การเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม 
และมีการแก่งแย่งกันในกลุ่ใหลากหลายผลประโยชน์ 
ขณะที่ประชาชนอาเจะห์เองเริ่มมีคำถามถึงการแบ่งโควต้าผลประโยชน์ระดับชาติที่ไม่ยุติธรรม  
จากหลายคำถามนี้มีจำนวนมากที่สงสัยว่าโรเบิร์ตนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการเล่นผลประโยชน์ที่อาเจะห์   นั้นคือผลประโยชน์ทำให้มีความชอบธรรมในการปราบปรามประชาชนและผู้นำท้องถิ่นที่วิพากษ์  วิจารณ์ การพัฒนาอาเจะห์
ที่ได้สร้างปัญหาให้เกิดขึ้นในสังคม 
ความจริงแล้วการแสดงออกโดยการวิพากษ์ 
วิจารณ์ ไม่เคยเกิดขึ้นในยุคเก่า  
การแสดงออกนี้เกิดจากบรรดาผู้นำดารุลอิสลาม /
กองทัพอิสลามอินโดนีเซียภายใต้การนำของดาวุด 
บือเระห์ ที่ร็สึกว่าถูกหลอกโดยซูการ์โน  
ทำไมจะไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อปี  1962 
พวกเขาได้กลับสู่อ้อมอกของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย  
เพราะรัฐบาลซูการ์โนสัญญาว่าจะดำเนินตามหลักการซารีอะห์ในอาเจะห์   เพื่อการนี้กฎหมายซารีอะห์ได้ถูกร่างขึ้นโดยทั้งสองฝ่าย  แต่สัญญานั้นไม่เคยได้รับการปฏิบัติ  
เมื่อเกิดรัฐบาลยุคใหม่ก็ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าสัญญานี้จะได้รับการปฏิบัติ 
สิ่งที่เกิดขึ้นคือรัฐบาลซูอาร์โตมีการสร้างอุตสาหกรรมต่างๆ
ในช่วงทศวรรษที่  1970  โดยไม่มีคำอธิบายว่ามีประโยชน์อย่างไรแก่ประชาชนชาวอาเจะห์ 
ประชาชนเองก็รู้สึกว่าการเข้ามาของอุตสาหกรรมหลากหลายชนิดนั้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพวกเรา 
ซึ่งเริ่มกอบโกยความร่ำรวยจากพื้นดินแดนของพวกเขา
จากการที่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้  ในปี  1972 
ดาวุด  บือเราะห์  ผู้นำดารุลอิสลาม /
กองทัพอิสลามอินโดนีเซีย  จึงรวบรวมเพื่อนๆ
เพื่อฟื้นฝูการต่อสู้กับรัฐบาลส่วนกลางอีกครั้งในการพบปะครั้งนั้น  ผู้ที่เข้าร่วมคือ  เต็งกู 
อิลยัส  ลือบี, เต็งกู  ฮัสบี  กือดง  , มุคตาร์ , ยาห์ยา , เต็งกูเฟาซี  ฮัสบี กือดง 
,  เต็งกู  ยูซุฟ  ฮาซัน
, เต็งกูจามิล 
ซัมซุดดิน , อาเยาะห์ซาบี , อูซีร์  เจลานี , เต็งกู  มูฮัมหมัด ยูนุส ,
กึมบัง  ตันยง  และเต็งกูซัยนาล  อาบีดิน 
ในการพบปะกันครั้งนั้นปรากฎว่าพันเอกฮาซัน 
ซาและห์ 
อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพอิสลามอาเจะห์ไม่ได้เข้าร่วม  ภายหลังทราบว่าอาซัน  ซาและห์มีการเคลื่อนไหวรณรงค์ 
หาเลี้ยงให้พรรคไกลการ์ที่จะมีการเลือกตั้งในปี  1977 
ตรงกันข้ามในการพบปะกันครั้งแรกนั้น 
อดีตสมาชิกดารุลอิสลาม /
กองทัพอิสลามอินโดนีเซียนั้นได้ลงมติให้ดำเนินการต่อสู้จัดตั้งรัฐอิสลามโดยเป็นสาธารณรัฐอิสลาม  อาเจะห์ 
หลังจากที่ขาดช่วงไปขณะหนึ่ง 
ที่สำคัญมากกว่านั้นคือพวกเขาได้เห็นชอบให้ดำเนินการต่อสู้ประชาชนชาวอาเจะห์ทั้งมวลว่าการเมืองของรัฐบาลยุคใหม่ภายใต้การนำของซูฮาร์โต  เหมือนกับซูการ์โน  ซึ่งได้ออกนอกเส้นทางที่ถูกต้อง  หรือว่าตามหลักการชารีอะห์
ในฐานะที่เป็นผู้นำ  ดาวุด 
บือเระห์ 
สำนึกว่าการต่อสู้กับรัฐบาลซูฮาร์โตนี้จะต้องได้รับการสนับสนุนจากกำลังทางทหารอย่างมากที่สุด  ถ้าไม่มีสิ่งนั้น 
ประสบการณ์ที่ข่มขื่นในขณะที่ต่อสู้กับซูการ์โนจะกลับมาหลอกหลอนพวกเขาอีก   ในเรื่องนี้ 
ดาวุด  บือเระห์  นึกถึงฮาซัน 
ตีโร ที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐโคลัมเบีย  สหรัฐอเมริกา 
การเดนทางไปยังเมืองลุงแซมของฮาซัน 
ตีโรดังกล่าว 
ภายหลังจากการได้รับทุนจากแผนโคลัมโบ ( Colombo 
Plan ) ในมุมมองของดาวุด 
บือเระห์ 
เด็กหนุ่มชาวอาเจะห์คนนี้สามารถหาอาวุธเพื่อการต่อสู้ของประชาชนอาเวะห์  จนกระทั้งปี 
1972  ดาวุด  บือเระห์ ได้ส่งพี่ชายของฮาซัน  ตีโรที่ชื่อว่า  ซัยนาล อาบีดิน 
เพื่อพบปะน้องชายของน้องที่สหรัฐโดยเจรจาเกี่ยวกับอาวุธในการต่อสู้  ซัยนาล 
อาบีดิน  เช่น  รัฐมนตรีมหาดไทยของรัฐบาลรัฐอิสลามอาเจะห์  ภายใต้การนำของฮาซัน  อาลี 
ในการพบปะของพี่น้องครั้งนั้น 
ฮาซัน  ตีโร
ได้ให้ความมั่นใจว่าอาวุธทุกประเภทนั้นได้มีการเตรียมพร้อมแล้ว  เริ่มจากอาวุธเบาและหนัก  รอเพียงการส่งไปยังอาเจะห์  และไดทำคำยืนยันจากน้องชายของเขาไปยังดาวุด  บือเระห์  
อย่างไรก็ตาม  มีคำบอกเล่าอื่นกล่าวว่าแนวคิดต้องการให้ประชาชนชาวอาเจะห์กลับมาก่อกบฏนั้นเกิดขึ้นจากฮาซัน  ตีโร  
ขณะนั้นในปี  1970  ซัยนาล 
อาบีดิน 
เพิ่งกลับจากการเดินทาง 
ไปเยี่ยมน้องชายที่กำลังศึกษาด้านกฎหมายอยู่ที่โคลัมเบียสหรัฐอเมริกา  ขณะที่พบปะกับพี่ชายของเขา  ฮาซัน 
ตีโร  ได้ฝากคำพูดต่อดาวุด  บือเระห์ 
ขอให้ประชาชนชาวอาเจะห์ได้ก่อกบฎต่อรัฐบาลสาธารณรัฐอินโดนีเซียภายใต้การนำของ
ซูฮาร์โตอีกครั้ง 
คำถามมีว่าในท่ามกลางที่มีประเด็นร้อนนั้นจะเกิดการก่อกบฏในอาเจะห์อีกครั้งโดยผู้นำที่แข็งกร้าวของอาเจะห์   ที่ชื่อว่า จามิล อามีน  ได้พบปะฮาซัน 
ซาเละห์ที่เมืองสุกาบูมี 
ชาวตะวันตก 
ขณะนั้นจามิลได้เล่าเรื่องตามที่ได้รับการบอกจากฮาซัน 
ตีโรว่าสหรัฐจะช่วยเหลือให้ประชาชนชาวอาเจะห์ได้ก่อกบฏต่อรัฐบาลอินโดนีเซีย
 
 
 
Tiada ulasan:
Catat Ulasan