โดย นิอับดุลรากิ๊บ บินนฮัสซัน
ขอเขียนถึงประวัติความเป็นมาของธงชาติอินโดเนเซีย ความจริงธงชาติอินโดเนเซียนั้น ยังมีอิทธิพลต่อธงชาติของประเทศสิงคโปร์ เพียงสิงคโปร์ได้มีการเติมดาวบนธงแดง-ขาว มีจำนวน 5 ดาวขึ้นมา
ธงชาติของประเทศสิงคโปร์
นอกจากนั้น สองพรรคของคนมลายูในมาเลเซีย คือพรรคอัมโน (United Malays National Organisation) และพรรคปาส (Parti Islam Se-Malaysia)
ก็ใช้ธงแดง-ขาว เพียงแต่ละพรรคจะเติมสิ่งที่นอกเหลือแดง-ขาว คือ พรรคอัมโน (United Malays National Organisation) จะเติมกริชอยู่ในวงกลมเหลืองอยู่กลางธง และพรรคปาส (Parti Islam Se-Malaysia) จะเติมวงกลมสีเขียวอยู่ในแถบสีแดง
ธงพรรคอัมโน (United Malays National Organisation)
ธงพรรคปาส (Parti Islam Se-Malaysia)
ประวัติธงชาติอินโดเนเซีย หรือ ซังเมระฮ์ ปูเตะฮ์
(Sang Merah Putih)
เป็นธงที่มีต้นแบบมาจากธงประจำอาณาจักรมัชปาฮิตในคริสต์ศตวรรษที่ 13 ลักษณะเป็นธงสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 2 ส่วน ยาว 3 ส่วน พื้นธงแบ่งเป็นสองส่วนตามแนวนอน ครึ่งบนสีแดง หมายถึงความกล้าหาญและอิสรภาพ ครึ่งล่างสีขาว หมายถึงความบริสุทธิ์ยุติธรรม
กล่าวว่าธงชาตินี้มีความคล้ายคลึงกับธงชาติโปแลนด์
เพียงกลับหัวกัน และเหมือนกับธงชาติโมนาโกเกือบทุกประการ
แต่ต่างกันที่สัดส่วนธงเท่านั้น
ความหมาย
สัญลักษณ์ในธงชาติอินโดเนเซียมีความหมายดังนี้
สีแดง หมายถึงความกล้าหาญและอิสรภาพของมนุษย์
สีขาว หมายถึงความบริสุทธิ์
หรือจิตวิญญาณของมนุษย์
ประวัติ
การเชิญธงชาติอินโดเนเซียขึ้นสู่ยอดเสาครั้งแรกในพิธีประกาศเอกราชของประธานาธิบดีวูการ์โน วันที่ 17 สิงหาคม 1945 สีแดงและสีขาวของธงชาติอินโดเนเซียมีที่มาจากสีธงของอาณาจักรมัชปาฮิต ซึ่งเป็นอาณาจักรชวาโบราณในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 13 ต่อมาในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 ขบวนการชาตินิยมในอินโดเนเซียได้ฟื้นฟูธงนี้ขึ้นใช้เป็นสัญลักษณ์ต่อต้านการกดขี่ของเนเธอร์แลนด์ในอาณานิคมอินเดียตะวันออกของดัตช์ โดยธงสีแดง-ขาวได้โบกสะบัดครั้งแรกบนเกาชวาในปี ค.ศ. 1928 ภายใต้การปกครองของเนเธอร์แลนด์ในระยะนั้นทำให้ธงนี้มีสถานะเป็นธงต้องห้าม ต่อมาเมื่ออินโดเนเซียได้ประกาศเอกราชในวันที่ 17 สิงหาคม 1945 ธงสีแดง-ขาว จึงได้ถูกชักขึ้นในฐานะสัญลักษณ์ของประเทศอินโดเนเซียครั้งแรก และมีฐานะเป็นธงชาติอย่างแท้จริงนับแต่นั้นเป็นต้นมา
การประกาศเอกราชของประธานาธิบดีซูการ์โน
ต้นฉบับร่างคำประกาศเอกราชอินโดเนเซีย คำร่างนี้ถูกทิ้งลงถังขยะ
แต่มีนักข่าวคนหนึ่งได้เก็บไว้
นอกจากนี้ยังมีประวัติของธงชาติอินโดเนเซียอีกทางหนึ่ง
ซึ่งมีความเกี่ยวข้องอย่างสำคัญต่อธงชาติเนเธอร์แลนด์ ประวัติศาสตร์สายนี้กล่าวว่า
ในสมัยภายใต้การปกครองของเนเธอร์แลนด์นั้น
ทุกพื้นที่การปกครองของอินเดียตะวันออกของดัตช์
จะต้องชักธงสามสีของเนเธอร์แลนด์เป็นเครื่องหมายสำคัญ ธงใด ๆ
ก็ตามที่หมายถึงอินโดนีเซียจะเป็นธงต้องห้ามทั้งหมด เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความต้องการขับไล่ชาวดัตช์
นักชาตินิยมและขบวนการเรียกร้องเอกราชของอินโดนีเซียกลุ่มต่าง ๆ
จึงทำลายธงชาติเนเธอร์แลนด์โดยการฉีกเอาส่วนล่างสุดที่เป็นสีน้ำเงินออก
คงไว้แต่เฉพาะสีแดงกับสีขาวเท่านั้น
เหตุผลสำคัญคือสีน้ำเงินของธงชาติเนเธอร์แลนด์ในความคิดของพวกชาตินิยมคือเครื่องหมายของ
"พวกอภิชนเลือดน้ำเงิน" ผู้กดขี่คนพื้นเมือง ในทางกลับกัน
สีแดงได้กลายเป็นสัญลักษณ์เลือดในการต่อสู้เรียกร้องเอกราช
ส่วนสีขาวนั้นอาจมีความหมายถึงความบริสุทธิ์ของชาวอินโดนีเซีย
ชื่อธงชาติอินโดนีเซียมีชื่อเรียกต่างๆ ดังนี้
1. "ซังเมระฮ์ปูเตะฮ์"
(Sang Merah Putih) -
ชื่ออย่างเป็นทางการตามที่บัญญัติในมาตรา 35
ของรัฐธรรมนูญแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ค.ศ. 1945
2."ซังดวีวาร์นา" (Sang
Dwiwarna) หรือ "เบินเดราเมระฮ์ปูเตะฮ์" (Bendera
Merah Putih) – ชื่อเรียกโดยทั่วไป
3. "ซังซากาเมอระฮ์ปูเตะฮ์"
(Sang Saka Merah Putih) -
ชื่อที่ใช้อ้างอิงถึงธงในประวัติศาสตร์ที่มีชื่อว่า "เบินเดราปูซากา" (Bendera
Pusaka) เป็นธงที่ได้ปลิวสะบัดอยู่ที่หน้าบ้านพักของประธานาธิบดีซูการ์โนในเวลาไม่นานหลังจากที่เขาได้กล่าวคำประกาศเอกราชของประเทศ
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 1945
ธงตัวต้นแบบนั้นเย็บโดยนางฟัตมาวาตี ซูการ์โน ภริยาคนที่
3 ของซูการ์โน
มารดาของนางเมกาวาตี ซูการ์โนปูตรี และจะมีการอัญเชิญขึ้นสู่ยอดเสาธงที่หน้าทำเนียบประธานาธิบดีในพิธีฉลองวันประกาศเอกราชของทุกปี
ธงนี้ได้ถูกชักขึ้นครั้งสุดท้ายในวันที่ 17 สิงหาคม 1968 โดยระหว่างปี 1946- 1968 นั้นธงนี้จะชักขึ้นเสาเฉพาะในวันประกาศเอกราชของอินโดเนเซียนั้น
หลังจากนั้นจึงได้มีการผ่านกระบวนการอนุรักษ์และจัดทำธงจำลองขึ้นใช้แทน
เพราะตัวธงของเดิมมีสภาพที่บอบบาง เสี่ยงต่อการชำรุดเสียหายมาก
นางฟัตมาวาตี ภรรยาคนที่ 3 ของประธานาธิบดีซูการ์โน ขณะกำลังเย็บธงชาติ และธงชาติแรกที่ถูกระกาศเป็นมรดกของชาติ
การใช้ธงสีแดง-ขาว นี้ถือเป็นความเชื่อตามตำนานของชาวมลายู-โปลีเนเซีย มีความหมายว่า เป็นแผ่นดิน และฟ้า ไม่เพียงอาณาจักรมาชาปาฮิตเท่านั้นที่ใช้ธงสีแดง-ขาว แต่ยังมัฐอีกจำนวนหนึ่งที่ใช้สีแดง-ขาว เช่น รัฐเกอดี บนเกาะชวา ธงรบของกษัตริย์ซีซีงามังฆารา ที่ 9 (singamangaraja IX) แห่งดินแดนบาตัก บนเกาะสุมาตรา และรัฐโบเน ของชาวบูกิส แห่งเกาะสุลาเวซี ก็ใช้ธงสีแดง-ขาวเช่นกัน
Tiada ulasan:
Catat Ulasan