Khamis, 22 September 2022

อักขระยาวีกับจังหวัดชายแดนภาคใต้

โดย  นิอับดุลรากิ๊บ   บินนิฮัสซัน

อักขระยาวี หรือในอินโดเนเซีย เรียกว่า อักขระอาหรับมลายู เกิดขึ้นเผยแพร่มายังภูมิภาคมลายูราวคริสต์ศตวรรษที่ 13 หรือก่อนหน้านั้น ดังปรากฏว่ามีการสลักชื่อบนสุสานเก่าแก่ 

หินปักหลักของชาวมุสลิม ที่ชื่อว่า ฟาตีมะห์ บินตีมัยมูน บินฮีบาตุลลอฮ (Fatimah binti Maimun bin Hibatullah) เป็นสตรีมุสลิมที่เสียชีวิตมื่อวันศุกร์ วันที่ 7 เดือนรายับ ปีฮิจเราะห์ศักราช 475 หรือวันที่ 2 ธันวาคม ปีคริสต์ศักราช 1082 เขียนในภาษาอาหรับด้วยอักขระกูฟา ถือว่าเป็นสุสานชาวมุสลิมที่ค้นพบว่า เก่าก่ที่สุดของโลกมลายู


การปรากฏตัวของมันเกี่ยวข้องโดยตรงกับการมาถึงของศาสนาอิสลามไปยังหมู่เกาะมลายู ตัวอักขระยาวี นี้มีพื้นฐานมาจากอักขระอาหรับและใช้ในการเขียนคำพูดภาษามาเลย์ ดังนั้นเสียงที่ไม่สามารถใช้อักขระอาหรับ มีการเพิ่มหรือแก้ไขตัวอักษรบางตัวเพื่อรองรับเสียงที่ไม่มีอยู่ในภาษาอาหรับ ซึ่งยังมีการถกกันอยู่ว่า อักขระที่เพิ่ม แก้ไขนั้น มีเสียงออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งกลาวว่า ชาวมลายูเป็นคนแก้ไขทั้งหมด แต่อีกส่วนหนึ่ง กล่าวว่า เป็นอักขระที่ยืมมาจากอักขระที่แก้ไขแล้วโดยชาวเปอร์เซีย หนึ่งในนักวิชาการที่เห็นในกลุ่มหลังนี้ คือ ศาสตราจารย์ ดร. บูคอรี  ลูบิส ชาวมาเลเซียผู้จบปริญญาเอกด้านวรรณกรรมเปอร์เซีย

ป้ายถนนภาษามลายูอักขระยาวีในประเทศมาเลเซีย


ป้ายถนนภาษามลายูอักขระยาวีในจังหวัดเรียว ประเทศอินโดเนเซีย

ตอนนี้ตัวอักขระยาวี นี้ยังใช้อยู่ในรัฐตรังกานู รัฐกลันตัน รัฐเคดาห์ รัฐเปอร์ลิส และรัฐยะโฮร์ ของมาเลเซีย นอกจากนั้นในแหล่งชุมชนชาวมลายูในอินโดเนเซีย รวมทั้งในจังหวัดชายแดนาคใต้ด้วย


งานเขียนประวัติศาสตร์ หรือ ฮีกายัต ด้วยภาษามลายูอักขระยาวี

เอกสารเก่าแก่ภาษามลายูอักขระยาวี คือหนังสือที่สุลต่านอาบูฮายัต สุลต่านห่งเมืองเตอร์นาเต เขียนถึงกษัตริย์โปร์ตุเกส ในปี 1521 และปี 1522

 

ภาษามลายูอักขระยาวี เป็นมรดกของชาวมลายู รวมทั้งชาวมลายูในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นสิ่งที่ชาวมลายูรวมทั้งชาวมลายูในจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องอนุรักษ์ รักษาแต่ในขณะเดียวกันชาวมลายูจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ต้องฝึกหัดการเขียนภาษามลายูอักขระรูมี เรียนรู้การใช้ไวยกรณ์ภาษามลายูให้ถูกต้อง เพื่อจะได้ใช้ในการสื่อสารกับชาวมลายูในมาเลเซีย อินโดเนเซีย สิงคโปร์ บรูไน ได้อย่างคล่อง

Selasa, 20 September 2022

ฮีกายัตบายันบูดีมาน (Hikayat Bayan Budiman) เป็นตำนานเก่าแก่ที่เขียนขึ้นด้วยมือโดยใช้ภาษามลายู

 โดย  นิอับดุลรากิ๊บ  บินนิฮัสซัน

ฮีกายัตบายันบูดีมาน (Hikayat Bayan Budiman) เป็นตำนานที่เขียนขึ้นด้วยมือโดยใช้ภาษามลายู ต้นฉบับแรกที่แปลขึ้นโดย Kadi Hassan ในปีคริสต์ศักราช 1371  กล่าวว่ามีทั้งหมด 69,761 คำ ฮีกายัตบายันบูดีมาน เป็นตำนานที่มีการเดินทางที่ยาวนาน ก่อนที่มาถึงเป็นภาษามลายู นั้นคือคริสต์ศักราช 1600  ตำนานนี้เดิมเป็นของชาวฮินดู เรียกว่าตำนาน Sukasaptati (เรื่องราวของ Bayan) ตำนานเรื่องนี้ถูกแปลและดัดแปลงบางอย่างเป็นภาษาเปอร์เซียภายใต้ชื่อใหม่ Tuti Nameh โดย Nakhshabi นอกจากนี้ยังมีคำแปลเป็นภาษาอื่นๆ  เช่นภาษาตุรกีลาษาฮินดี

ตำนาน Sukasaptati เข้าสู่ภูมิภาคมลายู โดยแปลเป็นภาษาชวา บูกิส และมากัสซาร์ ก่อนการแปลเป็นภาษามลายู  เชื่อกันว่าการแปลตำนานเรื่องนี้ได้รับการแปลเป็นภาษามลายูโดย Kadi Hassan ในปีคริสต์ศักราช1371 ในช่วงราชอาณาจักรมะละกา อย่างไรก็ตาม ต้นฉบับที่ถือว่าสมบูรณ์นั้นถูกค้นพบเมื่อปีคริสต์ศักราช1600 เท่านั้น สำเนาของตำนานเรื่องนี้ในภาษามลายูมีหลากหลายชื่อ เช่น Hikayat Bayan Budiman, Hikayat Khoja Maimun, Hikayat Khoja Mubarrak และ Cerita Taifah ในการเขียนด้วยภาษาษามลายูอักขระยาวี

เนื้อเรื่องของฮีกายัตบายันบูดีมาน เป็นเรื่องราวของพ่อค้าชื่อ Khoja Maimun กับภรรยาที่สวยงามมากของเขา ชื่อว่า Bibi Zainab รวมถึงนกสองตัว คือนกขุนทองตัวหนึ่งและนกแก้วอีกตัวหนึ่ง

 

ครั้งหนึ่ง Khoja Maimun ได้เดินทางไปทำธุรกิจในต่างประเทศ เขาทิ้งภรรยาไว้กับนกสองตัว หลังจากที่ Khoja Maimun ออกไปทำธุรกิจในต่างประเทศ เรื่องราวก็เกิดขึ้นว่าวันหนึ่งเมื่อมกุฎราชกุมารแห่งประเทศนั้นกำลังจะออกจากเมือง ทันใดนั้นเขาก็เห็นใบหน้าของภรรยาคนสวยของ Khoja Maimun  แล้วความรู้สึกรักใคร่ผูกพันระหว่างสองฝ่าย มกุฎราชกุมารทรงประสงค์จะพบเห็นหน้าภรรยาของพ่อค้าจึงขอให้เธอมาที่วังของเขาในตอนกลางคืน

 

อันที่จริง หน้าที่และเกียรตินั้นไม่มีในผู้ที่หลงไหลต่อกามคุณ ดังนั้นในคืนหนึ่ง ภรรยาของ Khoja Maimun ได้ตกแต่งตัวเองด้วยตั้งใจที่จะไป แต่ก่อนอื่นเขาถามความคิดต่อนกขุนทอง  จากนั้นนกขุนทองก็ให้คำแนะนำและเตือนผู้หญิงคนนั้นอย่างตรงไปตรงมา ของฮีกายัตบายันบูดีมาน บรรยายเหตุการณ์นี้ดังนี้

 

หลังจากที่ภรรยาของ Khoja Maimun ได้ยินคำพูดของนกขุนทอง เธอก็โกรธ เธอพูดว่า "ขอสาปแช่งเจ้า เจ้าไม่รู้เกี่ยวกับหัวใจของคนที่เย้ายวนหรือเปล่า ฉันคิดว่าเจ้าก็มีความรู้สึก ด้วยเจ้าก็เป็หญิง เลยจับเจ้านกขุนทองในกรงขว้างลงพื้นดิน จนเจ้านกขุนทองตาย

 

หลังจากที่นกแก้วเห็นพฤติกรรมของ Bibi Zainab ฆ่านกขุนทองโดยไม่มีเหตุผลแล้ว นกแก้วก็เงียบแกล้งทำเป็นหลับ ดังนั้น Bibi Zainab จึงไปปลุกนกแก้ว นกแก้วจึงแสร้งทำเป็นแปลกใจว่า “เธอมาทำอะไรที่นี่ในคืนอันมืดมิดนี้?”

 

ในระหว่างนี้ นกแก้วหาวิธีที่จะหยุดยั้งภรรยาของเจ้านาย ไม่ให้ทำตามความตั้งใจที่ไม่ดีของเธอโดยไม่วิจารณ์การกระทำของเธอ แต่ด้วยการเล่าเรื่อง ภรรยาของ Khoja Maimun ฟังนิทานที่ดึงดูดใจเธอมาก จนเธอไม่ไปที่เธอจะไป

 

นกแก้วเล่าเรื่องเช่นนี้ทุกคืน โดยนกแก้วได้เล่าเรื่องถึงเจ็ดสิบเรื่อง เนื้อหาทั้งหมดเพื่อดึงภรรยาของ Khoja Maimun ให้ความรู้สึกภักดีต่อสามีของเธอกลับคืนมา  จนกว่าสามีของเธอจะกลับมา