Sabtu, 28 Ogos 2021

ฮังตูวะห์ วีรบุรุษของชาวมลายู กับตำนาน หรือฮีกายัตฮังตูวะห์

โดยนิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน

ฮิกายัต ( حكاية ) นั้นเป็นคำภาษาอาหรับที่แปลตามตัวว่า "เรื่องราว" – เป็นวรรณกรรมของชาวมลายูในรูปแบบหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการผจญภัยของวีรบุรุษและบุคคลต่างๆจากราชอาณาจักรต่างๆ ในโลกมลายู ซึ่งครอบคลุมอินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไน สิงคโปร์ และจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในเกาะสุมาตรา อินโดเนเซีย พงศาวดารของพวกเขา แม้จะเป็นเรื่องราวที่จะอิงตามประวัติศาสตร์ แต่ก็มีความโรแมนติกอย่างมาก  ฮีกายัต เทียบได้กับคำว่า ตำนานในภาษาไทย

ประวัติของฮังตูวะห์

ฮังตูวะห์ (Hang Tuah) เป็นชื่อนักรบชาวมลายูที่อาศัยอยู่ที่รัฐมะละกาในรัชสมัยของสุลต่านมันซูร์ชาห์ ราวศตวรรษที่ 15 เขาเป็นผู้ที่อำนาจมากที่สุดในบรรดาแม่ทัพเรือ หรือ ลักษมณา สำหรับชาวมลายูแล้ว ฮังตูวะห์ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่มีความสามารถในการต่อสู้แบบซีลัต ซึ่งถือเป็นศิลปะการป้องกันตัวของชาวมลายู และวรรณกรรมมลายูในเรื่องฮังตูวะห์ ถือว่าเป็นวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ ฮีกายัตฮังตูวะห์ เป้นวรรณกรรมที่เป็นเรื่องราวชีวิตของฮังตูวะห์  แต่ไม่ปรากฎว่าผู้ใดเป็นผู้เขียนฮีกายัตฮังตูวะห์

ในยุคที่ราชอาณาจักรมะละกามีความเจริญรุ่งเรืองนั้น ฮังตูวะห์ห์เป็นแม่ทัพเรือที่มีชื่อเสียงมาก เขามาจากครอบครัวที่ยากจน และเกิดในกระท่อม แต่ด้วยความกล้าหาญของเขา เขาจึงได้รับความรักอย่างมากและในที่สุดตำแหน่งของเขาก็สูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นเขาจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นทูตและเป็นตัวแทนของรัฐในการติดต่อกับต่างประเทศ


ฮังตูวะห์มีเพื่อนสนิทหลายคน เช่น ฮังเยอบัต (Hang Jebat) ฮังเกอสตูรี (Hang Kesturi) ฮังเลอกีร์ (Hang Lekir)  และฮังเลอกิว (Hang Lekiu) นักวิชาการบางคนกล่าวว่า ว่าสองคนสุดท้ายเป็นเพียงคนเดียวกัน ด้วยในฮีกายัตนั้นเขียนตัวอักษรยาวี ที่ค่อนข้างจะคล้ายกัน คือ เวา หรือ "" และ รอ "" เมื่อดูแล้วค่อนข้างคล้ายกันมาก ส่วนนักวิชาการอีกจำนวนหนึ่งก็กล่าวว่าเพื่อนทั้งห้าคนนี้คือบุคคลซึ่งเป็นตัวละครหลักในมหากาพย์มหาภารตะ

แต่ก็ยังมีนักวิชาการจำนวนหนึ่ง เชื่อว่า เรื่องราวของฮังตูวะห์ เป็นเรื่องจริง มีการลงพื้นที่พิสูจน์หลักฐานต่างๆ ทั้งในประเทศมาเลเซีย อินโดเนเซีย และบางกลุ่ม ก็เดินทางลงพื้นที่ ศึกษาเอกสารการติดต่อของฮังตูวะห์ กับประเทศญี่ปุ่น  เรื่องราวของฮังตูวะห์ ก็มีปรากฏในสถานที่ต่างๆ แม้แต่ในจังหวัดปัตตานี ก็ปรากฏในฮีกายัตฮังตุวะห์ กล่าวถึงตอนที่สุลต่านแห่งราชอาณาจักมะละกา สั่งให้ฮังตูวะห์มาซื้อช้างในสยาม ไม่ปรากฏว่าสถานที่ไหน ต่อมาฮังตุวะห์ ก็ได้แวะมาเยือนสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และจนถึงปัจจุบัน ก็ยังปรากฎของบ่อน้ำฮังตุวะห์ ที่ขุดในขณะที่เขาเดินทางมาสามจังหวัด ตั้งอยู่ไม่ห่างจากมัสยิดกรือเซะ อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี


ในฮีกายัตฮังตุวะห์ ก็มีเรื่องราวบอกเล่าถึง ฮังตุวะห์กับเพื่อนๆ ด้วยความไม่ภักดีของฮังเยอบัตต่อสุลต่าน ส่วนฮังตุวะห์ เป็นผู้ภักดีต่อสุลต่าน เรื่องราวของฮังตูวะห์กับฮังเยอบัต เกิดขึ้นจากฮังเยอบัตที่ปกป้องฮังตูวะห์ กลับถูกฮังตูวะห์ฆ่าตาย จนถึงขณะนี้ ในหมู่ชวมลายูก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ใครถูก ระหว่างฮังตูวะห์กับฮังเยอบัต  นอกจากนั้นในฮีกายัตยังมีการกล่าวถึงความบาดหมางระหว่างอาณาจักรมะละกากับอาณาจักรมาชาปาฮิตแห่งเกาะชวา

เรื่องราวระหว่างฮังตูวะห์กับฮังเยอบัต

ฮังตูวะห์ถูกกล่าวหาจากศัตรูของเขาว่าล่วงประเวณีกับสาวใช้คนหนึ่งของสุลต่าน เมื่อได้ยินข้อกล่าวหา สุลต่านก็สั่งให้ลงโทษฆ่าฮังตูวะห์ โดยไม่มีการสอบสวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับความผิดของเขา แต่ฮังตูวะห์ได้รับการช่วยเหลืออย่างลับๆ จากเบินดาฮารา (Bendahara) หรือเทียบได้กับนายกรัฐมนตรีขณะนั้น  โดยไม่ได้ฆ่าลงโทษฮังตุวะห์   แต่กลับซ่อนฮังตูวะห์ในที่ลับ


ฮังเยอบัตรู้ดีว่า ฮังตูวะห์ถูกลงโทษอย่างไม่ยุติธรรม ดังนั้นฮังเยอบัตจึงก่อกบถต่อสุลต่าน และกองกำลังของสุลต่านมะละกาไม่สามารถปราบปรามฮังเยอบัตได้


สุลต่านมะละการู้ในเวลาต่อมาว่าฮังตัวเป็นผู้บริสุทธิ์ และรู้สึกเสียใจในทันทีที่ลงโทษฮังตูวห์ถึงตาย เบินดาฮาระจึงบอกสุลต่านว่าฮังตูวะห์ยังมีชีวิตอยู่ และมีเพียงฮังตูวะห์เท่านั้นที่สามารถปราบฮังเยอบัตได้  ฮังตูวะห์จึงได้รับการนิรโทษกรรม และเรียกฮังตูวะห์กลับมา มีการต่อสู้กับระหว่างฮังตูวะห์กับฮังเยอบัต หลังจากต่อสู้กันเจ็ดวันทางฮังตูวะห์ ก็สามารถฆ่าฮังเยอบัตได้

นอกจากนั้นในฮีกายัตฮังตูวะห์ ยังวิจารณ์ชาวชวาเป็นอย่างมาก และการรับมือกับการแข่งขันระหว่างสุลต่านแห่งอาณาจักรมะละกากับอาณาจักรมาชาปาฮิตของชวา ในงานเขียนวรรณกรรมเล่มนี้ มีการเล่าถึงคนโกงและภาพร้ายหลายคนที่มาจากอาณาจักรมาชาปาฮิต และเบินดาฮาราของอาณาจักรมาชาปาฮิต คือกายะห์มาดา (Gajah Mada) ว่าเป็นคนเจ้าเล่ห์ และไม่มีความเห็นอกเห็นใจ เชื่อว่าเนื้อหาของฮีกายัตฮังตูวะห์ มีมาตั้งแต่ปี 1700 ในขณะที่เป็นต้นฉบับที่เป็นเอกสารมีใน 1849 ฮีกายัตฮังตุวะห์ ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1908 โดยการตรวจสอบของนายสุไลมาน บินมูฮัมหมัดนูร์ (Sulaiman bin Muhammed Nur) และ Mr. William Shellabear


ฮีกายัตฮังตุวะห์ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น UNESCO's Memory of the World Program International Register ในปี 2001


สถานที่ต่างๆที่ใช้ชื่อว่าฮังตุวะห์  เช่น

1.มัสยิดฮังตุวะห์ รัฐมะละกา มาเลเซีย

2.ถนนหลายสายในมาเลเซีย ใช้ชื่อว่า ถนนฮังตูวะห์ มีในกรุงกัวลาลัมเปอร์ รัฐโยโฮร์  รัฐมะละกา รัฐเปรัค

3.เรือรบฟรีเกตของกองทัพเรือมาเลเซีย 2 ลำใช้ชื่อว่า ฮังตุวะห์ คือ KD Hang Tuah (F433) และ KD Hang Tuah (F76).

4. บนถนนฮังตูวะห์ ในรัฐมะละกา มีการสร้างห้างสรรพสินค้า ใช้ชื่อว่า Hang Tuah Mall เป็นแหล่งท่องเที่ยวของรัฐมะละกา

5. สถานีรถไฟฟ้าห่งหนึ่งในกรุงกัวลาลัมเปอรื ใช้ชื่อว่า สถานีรถไฟฟ้า Hang Tuah

6. ห้างสรรพสินค้าชื่อว่า The Mall ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ มีมุมอาหารใช้ชื่อว่า Medan Hang Tuah เป็นมุมอาหาร

7. สนามกีฬาฝนรัฐมะละกา ใช้ชื่อว่า Hang Tuah Stadium

8. ในรัฐมะละกา มีบ่อน้ำใช้ชื่อว่า บ่อน้ำฮงตูวะห์.

9. ในรัฐมะละกา มีชื่อเมือง และชื่อเขตเลือกตั้งว่า Hang Tuah Jaya

10. ในรัฐมะละกา มีหมู่บ้านใช้ชื่อว่า หมู่บ้าน Hang Tuah

11. ในรัฐมะละกา มีสะพานใช้ชื่อว่า สะพานฮังตูวะห์

12. ในรัฐมะละกา มีอาคารใช้ชื่อว่า Hang Tuah Hall


ส่วนในประเทศอินโดเนเซีย ก็มีการใช้ชื่อ ฮังตุวะห์ ไม่แพ้ประเทศมาเลเซีย และอาจมากกว่าด้วยซ้ำ  ร่วมทั้งชื่อมหาวิทยาลัยด้วย   เช่น

1. ชื่อถนนหลายสายที่มีชื่อว่า ถนนฮังตูวะห์ เช่นถนนถนนฮังตูวะห์  เมืองเปอกันบารู จังหวัดเรียว ถนนฮังตูวะห์ เมืองบาตัม จังหวัดหมู่เกาะเรียว ถนนฮังตูวะห์ ในกรุงจาการ์ตา ถนนฮังตูวะห์ ในเมืองตันหยงปีนัง จังหวัดหมู่เกาะเรียว ถนนฮังตูวะห์ เมืองเมดาน จังหวัดสุมาตราเหนือ ถนนฮังตูวะห์  เมืองสุราบายา จังหวัดชวาตะวันออก ถนนฮังตูวะห์  เมืองปาเล็มบัง จังหวัดสุมาตราใต้ ถนนฮังตูวะห์ เมืองปาดัง จังหวัดสุมาตราตะวันตก ถนนฮังตูวะห์ เมืองเดนปาซาร์ จังหวัดบาหลี  ถนนฮังตูวะห์ เมืองบันดุง จังหวัดชวาตะวันตก  ถนนฮังตูวะห์ เมืองปาลู จังหวัดสุลาเวซีกลาง


2. มหาวิทยาลัยฮังตูวะห์ ในเมืองสุราบายา เป็นมหาวิทยาลัยที่จัดตั้งขึ้นโดยกองทัพเรืออินโดเนเซีย


3. เรือรบอินโดเนเซีย สองลำใช้ชื่อว่า ฮังตุวะห์ คือ เรือลาดตระเวนชั้นบาทเฮิร์ส Bathurst-class corvette RI Hang และ เรือฟรีเกต Riga-class frigate KRI Hang Tuah (358)


4. สวนในเมืองเปอกันบารู จังหวัดเรียวใช้ชื่อว่า Hang Tuah Park


5. สนามกีฬาในบริเวณมัสยิดกลาง อัน-นูร์ เมืองเปอกันบารู จังหวัดเรียว  ใช้ชื่อว่า Hang Tuah Stadium

อ้างอิง

https://ms.wikipedia.org/wiki/Hang_Tuah

http://www.bl.uk/manuscripts/FullDisplay.aspx?ref=MSS_Malay_B_1

Bot Genoot Schap,Hikayat Hang Tuah I, Pusat Bahasa, Kementerian Pendidikan Nasional, Republik Indonesia,2010.

Bot Genoot Schap,Hikayat Hang Tuah II, Pusat Bahasa, Kementerian Pendidikan Nasional, Republik Indonesia,2010.

Tiada ulasan: