โดย นิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับชาวดัตช์คนหนึ่ง
เขาคือ นาย Frederick de Houtman เป็นบุตรของนาย
Pieter Cornelisz กับนาง Agnes née Frederiksd เขาเกิดที่เมือง Gouda ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อปี
1571 และเสียชีวิตที่เมือง Alkmaar ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่
21 ตุลาคม 1627 เขาเป็นนักสำรวจ นักเดินเรือ
และยังเป็นเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของเจ้าอาณานิคมดัตช์ เขาได้ร่วมเดินทางครั้งแรกกับคณะของชาวดัตช์ไปยังหมู่เกาะอินเดียตะวันออก
หรือภูมิภาคมลายู ภายใต้การนำของพี่ชายของเขาที่ชื่อว่า นาย Cornelis de
Houtman และ นาย Pieter Dirkszoon Keyser ระหว่างปี
1595 ถึง 15957
ต่อมาเขาได้เดินทางมายังภูมิภาคมลายูเป็นอีกครั้งที่สองร่วมกับพี่ชายของเขา
นาย Cornelis
de Houtman ในปี 1598 ในการเดินทางครั้งนี้
คณะของเขาถูกโจมตีโดยสุลต่านอาลาอุดดิน รีอายต ชาห์ (Alauddin Riayat Syah) แห่งรัฐอาเจะห์ โดยพี่ชายของของเขาถูกสังหารเสียชีวิต ส่วนนาย Frederick
de Houtman ถูกสุลต่านแห่งอาเจะห์จับตัวได้ และถูกคุมขังในคุกของรัฐอาเจะห์
เขาถูกคุมขังระหว่าง 11
กันยายน 1599 ถึง 25 สิงหาคม 1601 เขาถูกปล่อยออกมา เมื่อรัฐอาเจะห์ได้รับหนังสือขอจากเจ้าชายเมาริตส์
(Prince
Maurits)แห่งฮอลันดา ในช่วงที่เขาถูกคุมขังในคุกของรัฐอาเจะห์ เขาใช้เวลาในการเรียนภาษามลายู
เมื่อเขากลับไปยังฮอลันดา ในปี 1603
เขาก็ได้จัดพิมพ์หนังสือพจนานุกรมภาษาดัชต์-ภาษามลายู-ภาษามาลากาชี
(มาดากัสการ์)
ในปี
1603 นาย Frederick
de Houtman ได้ออกเดินทางไปยังหมู่เกาะอินเดียตะวันออกอีกครั้ง
และเป็นเขาได้เป็นผู้สำเร็จราชการชาวดัตช์คนแรกของเกาะอัมบน ระหว่างตั้งแต่ปี 1605
ถึง 1611 และเขาได้กลับไปฮอลันดาในปี 1612 และอาศัยอยู่ที่เมือง Alkmaar ประเทศฮอลันดา โดยเขาเป็นสมาชิกสภาเมืองดังกล่าวตั้งแต่ปี 1614 ถึง 1618
ในปี 1618 เขาได้เดินทางไปยังหมู่เกาะอินเดียตะวันออกอีกครั้ง ต่อมาเขาได้เป็นผู้ว่าการของหมูเกาะมาลูกุ ระหว่างปี 1621-23 และต่อมาในปี 1624 เขากลับไปยังฮอลันดา และเสียชีวิตที่นั่น เมื่อ 21 ตุลาคม 1627
ความเป็นมาของการทำพจนานุกรมการสนทนาภาษาดัตช์
- ภาษามลายู
คณะชาวดัตช์ภายใต้การนำของนาย
Cornelis
de Houtman และน้องชายของเขา นาย Frederick de Houtman เดินทางมาถึงท่าเรืออาเจะห์เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 1599
พวกเขาได้รับการปฏิบัติอย่างอบอุ่น
อย่างไรก็ตามสุลต่านแห่งอาเจะห์ไม่มีความสนใจในการค้าขาย สุลต่านต้องการใช้เรือและอาวุธของดัตช์ในการโจมตีรัฐโยโฮร์เท่านั้น
ในวันที่
1 กันยายน 1599 กองทหารของสุลต่านแห่งรัฐอาเจะห์ได้ซุ่มโจมตีและสังหารนาย Cornelis de
Houtman และคนอื่น ๆ อีกหลายคน สำหรับนายเลอฟอร์ต (Le Fort) หัวหน้าคณะสำรวจอีกคนสามารถหลบหนีได้ด้วยเรือสองลำของเขา แต่ลูกเรือ 30
คนรวมทั้งนาย Frederick de Houtman ถูกจับได้
นาย Frederick de Houtman ถูกชักชวนให้เปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลามพร้อมจะให้ตำแหน่ง และแต่งงานกับหญิงชาวอาเจะห์ แต่เขาปฏิเสธ เขาจึงถูกคุมขังที่ป้อมเมืองปีดี เป็นเวลา 26 เดือน (11 กันยายน 1599 ถึง 25 สิงหาคม 1601)
นาย Frederick
de Houtman ใช้เวลาในขณะที่ถูกคุมขังในการรวบรวมคำศัพท์หัวข้อการสนทนาต่างๆในภาษาดัตช์และภาษามลายู
โดยใช้ชื่อหนังสือว่า Spraeck
ende Woordboek, Inde Maleysche ende Madagaskarsche Talen met vele Arabische
ende Turcsche Woorden
อาจารย์ลีลี่
ซูรัตมินโต (Lilie
Suratminto) อาจารย์ประจำสาขาวรรณคดีดัตช์ คณะศิลปะศาสตร์ มหาวิทยาลัยอินโดนีเซีย
กล่าวว่า "บทสนทนาที่เขียนขึ้นโดยนาย Frederick de Houtman จะเป็นภาษามลายูที่ใช้ในการติดต่อซื้อขายที่ท่าเรือ"
นาย Frederick de Houtman รวบรวมเนื้อหาและข้อมูลจากการสัมภาษณ์เพื่อนผู้ต้องขัง เขามักจะได้รับความช่วยเหลือจากล่ามคนหนึ่งที่ทำงานให้กับกองเรือโปรตุเกสและเนเธอร์แลนด์ ล่ามชาวจากลักเซมเบิร์กคนนั้นนาย Frederick de Houtman เรียกชื่อเล่นว่า "นายวันพฤหัส"
ส่วนแรกของพจนานุกรมที่เขาเขียนประกอบด้วยบทกวีเพลงสวด
(Lof-Dicht)
และคู่มือทางดาราศาสตร์ที่แสดงถึงกลุ่มดาวต่างๆ ทางตอนใต้ของเส้นศูนย์สูตรซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับนักเดินทางที่เดินทางไปถึงหมู่เกาะอินดีส
นอกจากนี้พจนานุกรมเล่มดังกล่าวยังมีการสนทนาหลายรายการและรวมทั้งคำศัพท์ภาษาดัตช์
- ภาษามลากาซี(มาดากัสการ์)
นาย Karim Harun เขียนในบทความชื่อว่า “Aspek Konjugasi dalam Buku Perbualan Houtman (1603)” ลงในวารสารวิชาการชื่อ Jurnal Pengajian Melayu ฉบับที่ 17 (2006) กล่าวว่าการเพิ่มภาษามาลากาชี หรือมาดากัสการ์ เพื่อให้ชาวยุโรปจะได้ใช้เมื่อแวะพักที่แหลม Kaap de Goede Hoop (Cape of Good Hope) ในประเทศแอฟริกาใต้ ในการโต้ตอบกับเจ้าของภาษาในการขนส่งเสบียงอาหารและเครื่องดื่ม
นาย
Frederick
de Houtman เขียนบทสนทนาภาษาดัตช์ไว้ทางขวาด้วยอักขระแบบกอธิค คู่กับภาษามลายูทางซ้ายซึ่งใช้อักษรโรมัน
ในส่วนนี้อาจารย์ลีลี่ ซูรัตมินโต (Lilie Suratminto) กล่าวว่า การเขียนด้วยอักขระแบบกอธิค น่าจะได้รับอิทธิพลอย่างมากจากวัฒนธรรมโปรตุเกสในเวลานั้น ด้วยการใช้อักขระแบบกอธิคจะใช้ในการเขียนพระคัมภีร์
อาจารย์ลีลี่
ซูรัตมินโต (Lilie
Suratminto) กล่าวเสริมว่า “ในศตวรรษที่ 17 อักขระแบบกอธิคไม่ได้ถูกใช้อีกต่อไป
ด้วยทางบริษัท VOC ได้กำหนดให้อักษรโรมัน เป็นอักขระที่เป็นทางการสำหรับการปกครองในหมู่เกาะอินดีสตะวันออก”
หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุกในรัฐอาเจะห์แล้ว
พจนานุกรมการสนทนาเล่มดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์โดย Jan Evertsz Cloppenburch
Boecvercooper op't Water Amsterdam ในปี 1603
เดิมพจนานุกรมการสนทนานี้ถูกเก็บเป็นความลับ
และมีไว้สำหรับเจ้าหน้าที่และนายเรือของ VOC เท่านั้น
แต่ในที่สุดก็มีการแปลเป็นภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมัน
พจนานุกรมนี้เป็นที่ต้องการสูงในยุโรป ลูกเรือของเรือเยอรมัน ดัตช์เดนมาร์กและสวีเดน
จะใช้หนังสือเล่มนี้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับการเดินทางของพวกเขา
ศาสตราจารย์
ดร. James
T. Collins เขียนไว้ในหนังสือ Bahasa Melayu Bahasa Dunia:
Sejarah Singkat ว่า ชาวยุโรป พวกเขาจะเก็บหนังสือเล่มนี้ไว้ในกระเป๋าก่อนออกเดินทางไปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ในปี
1612 นาย Albert
Ruyll พ่อค้าของ VOC ได้แก้ไขและจัดพิมพ์พจนานุกรมใหม่เล่มนี้ใหม่ในชื่อว่า
Speighel vande Maleyshce Tale ในเวลา 68 ปีต่อมา ได้มีการตีพิมพ์ฉบับเพิ่มเติม
โดยไม่รวมภาษามาลากาซี (มาดากัสการ์) ภาษาอาหรับและภาษาตุรกีอีกต่อไป และนาย Gotardus Arthusius ได้ตีพิมพ์เป็นภาษาละติน และต่อมานาย
Avgvstine Spalding ได้แปลเป็นภาษาอังกฤษ โดยใช้ชื่อว่า Dialogues
in the English and Malaiane Languages
อาจารย์ลีลี่
ซูรัตมินโต (Lilie
Suratminto) กล่าวเพิ่มเติมว่า การแปลพจนานุกรมการสนทนาของนาย Frederick
de Houtman เป็นภาษาต่างๆ นั้นถือเป็นการประตูสำหรับชาวยุโรปโดยเฉพาะชาวดัตช์สู่หมู่เกาะอินเดียตะวันออก
หรือภูมิภาคมลายู
https://adb.anu.edu.au/biography/houtman-frederik-de-2201
http://www.ianridpath.com/startales/startales1c.html#houtman
https://historia.id/kuno/articles/kamus-dari-penjara-sultan-vxj46/page/1
Tiada ulasan:
Catat Ulasan