โดยนิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน
รองศาสตราจารย์ Zhang Liang จากศูนย์การศึกษาชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์ของสถาบัน Chinese Southwest Borderland แห่งมหาวิทยาลัยยูนาน ประเทศจีน ได้เผยแพร่เอกสารการวิจัย เกี่ยวกับชาวจามซันย่า เป็นกลุ่มที่ยึดมั่นในคำสอนของศาสนาอิสลามแบบดั้งเดิมอย่างใกล้ชิด พวกเขารักษาวิถีชีวิตอาหารฮาลาลในหมู่บ้านของตนอย่างจริงจัง แม้ว่าเนื้อวัวและเนื้อแกะในหมู่บ้านจะมีราคาแพงกว่า แต่พวกเขาจะไม่ซื้ออาหารที่อื่น ซึ่งไม่มีการรับประกันว่าฮาลาลจริงๆ เพื่อประหยัดเงิน หากพวกเขาทำงานในโรงงานที่ไม่มีเตาฮาลาล ชาวจาม จะวิ่งกลับบ้านเพื่อทานอาหารฮาลาล ไม่ว่าพวกเขาจะยุ่งแค่ไหนในที่ทำงาน เมื่อซื้ออาหารก็จะตรวจดูว่ามีฮาลาลในเร็วๆ นี้หรือไม่ เมื่อพูดถึงการแต่งตัว สาวๆ ชาวจามมักจะสวมผ้าคลุมศีรษะเสมอ
ภาษาจามเกาะไหหนาน เป็นภาษาที่มีการพูดกันในสองหมู่บ้านนอกเมืองซันยา บนเกาะไหหนาน ภาษาจามนี้มีความสัมพันธ์กับภาษาจามชายฝั่งและที่ราบสูงของเวียดนาม ภาษาจาม เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลภาษามลายู-จาม ซึ่งเป็นส่วนแยกออกมาจากตระกูลภาษามลายู-โปลีเนเซีย สำหรับภาษาจามเกาะไหหนานพูดบริเวณตอนใต้ของเกาะไหหนาน การอพยพของชาวจามออกจากเวียดนามไปยังเกาะไหหนาน มีสองคลื่น โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเมืองอินดราปูรา (Indrapura) ในเวียดนามตอนเหนือแตกปี 982 ในบันทึกของจีนกล่าวว่ามีชาวมุสลิมอพยพไปยังเกาะไหหนานในปี 186 และปี 88
การอพยพครั้งที่สอง ตามบันทึกของจีน
ฉบับที่ 284
ของ Ming Xian Zong Shi บันทึกว่า ในยุคจักรพรรดิ
Xian Zong ของราชวงศ์หมิง มีเจ้าชายชาวจาม ที่มีชื่อว่าเจ้าชาย
Lai Gu ทำการโจมตีเวียดนาม แต่ไม่สามารถเอาชนะชาวเวียดนามได้
เจ้าชาย Lai Gu
จึงนำภรรยา และพรรคพวกชาวจามหนึ่งพันคน หนีไหยังเกาะไหหนาน และในบันทึกของจีน
ฉบับที่ 286 ของ Ming Xian Zong Shi ก็ยังมีการเช่นนั้นเหมือนกัน
จากหนังสือ A
Grammatical Sketch of Hainan Cham : History, Contact, and Phonology กล่าวว่า Savna (192 ; 29) ได้เดินทางไปที่เมืองซันยา
และพบชาวมุสลิม ราง 400-500 คน ซึ่งไม่ทราบว่า มีแหล่งเดิมมาจากที่ไหน
มีมัสยิดอยู่ 4 แห่ง และพวกเขาพูดภาษามลายู สำหรับผู้เขียนเชื่อว่า
พวกเขาเหล่านั้น น่าจะพูดภาษาจามมากกว่า ซึ่งภาษาจามเอง ก็อยู่ในตระกูลภาษามลายู ส่วนในหนังสือดังกล่าวเช่นกัน กล่าวว่า ในปี 1937
นาย Hans Scubel นักมานุษยวิทยาชาวเยอรมัน ได้เดินทางไปเยือนเมืองซันวา เพื่อศึกษาภาษาหลี่
ซึ่งเป็นภาษาพูดของชาวบนเกาะไหหนาน
เป็นภาษาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สุดในตระกูลภาษาจีน-ทิเบต นาย Hans
Scubel ได้เดินทางไปเกาะไหหหนาน โดยเขียนเรื่องราวที่เขาสัมผัส
นอกจากภาษาหลี่แล้ว เขายังสัมผัสชุมชนชาวจามบนเกาะไหหนาน
เขาเขียนลงในบทความชื่อว่า die li-stamme der insel hainan ein beitrag zur
volkskunde sud chinas หรือ นิทานพื้นบ้านของชนเผ่าหลี่แห่งเกาะไหหลำ
จีนตอนใต้ ในปี 1937 เขาพักอยู่ที่เมืองซันยาเป็นเวลานานพอควร
เขาบอกว่า มีชาวมุสลิมอยู่ราว 400 หลังคาเรือน มีประชากรราว 2,000
คน
และหลังจากนาย Hans
Scubel เขียนเรื่องราวของชาวจามบนเกาะไหหนานแล้ว มีนาย Jiawu
cen ได้เขียนในปีทศวรรษที่ 1940 ชื่อว่า Sanya
Gang de Huijiao หรือ The Islam in Sanya Harbor เขากล่าวว่า ชาวมุสลิม
อาศัยอยู่ในหมู่บ้านที่แยกออกจากชาวจีนที่ไม่ใช่มุสลิม มีมัสยิดอยู่ 4 แห่ง และในบรรดามัสยิดเหล่านั้น ปรากฏว่า มีมัสยิดอยู่ 3 แห่งที่มีอายุเก่าแก่ มัสยิดทางตอนเหนือ สร้างในยุคจักรพรรดิเฉียนหลง ( 乾隆) ปี 1736-1795 มัสยิดทางตอนใต้ สร้างในยุคจักรพรรดิเจียชิ่ง ปี 1796-1820 และมัสยิดทางทิศตะวันตก สร้างในยุคจักรพรรดิกวังซฺวี่ (光绪帝)ปี 1875
– 1908
ในการสำรวจปี 1982
พบว่ามีชาวจาม บนเกาะไหหนานอยู่ 4,143 คน พบว่า
โดยอาศัยอยู่ในสองหมู่บ้าน คือ หมู่บ้านฮุยฮุย
( Huihui) และหมู่บ้านฮุยซิน (Huixin)
จำนวน 3,849 คน
คำภาษามลายู คำภาษาจามไหหนาน
Basah sa
Panah na
Nipis pi
Habis phi
Atas ta
Kapas pa
อ้างอิง
Utsul จาก https://en.wikipedia.org/
Graham Thurgood,
Ela Thurgood and Li Fengxiang,A Grammatical Sketch of Hainan Cham : History, Contact, and Phonology, Boston
De Gruyter,2014.
Ling Tian เรื่อง Sanya Chams Muslim Minority in Hainan: Eradicating an
Identity ใน https://bitterwinter.org/