โดย นิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน
ดินแดนปาตานีในอดีต ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดต่างๆในปัจจุบัน
เช่น จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส รวมทั้งสี่อำเภอของจังหวัดสงขลาถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของโลกวัฒนธรรมมลายู
(Malay Cultural
World)
หรือที่มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่านูซันตารา (Nusantara) ดังนั้นการเคลื่อนไหลของผู้คนทั้งจากดินแดนปาตานีไปยังส่วนอื่นๆของโลกวัฒนธรรมมลายู
หรือจากส่วนอื่นๆของโลกวัฒนธรรมมลายูมายังดินแดนปาตานีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันถือเป็นเรื่องปกติ
แม้ว่าในปัจจุบันโลกวัฒนธรรมมลายูจะถูกแบ่งโดยภูมิรัฐศาสตร์
แต่ความสัมพันธ์ ความมีวัฒนธรรมร่วม ยังคงมีอยู่จนถึงปัจจุบัน
การเคลื่อนไหลของประชาชนในดินแดนปาตานีไปยังส่วนอื่นๆของโลกวัฒนธรรมมลายูนั้น
มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งที่เกิดจากปัญหาสงคราม เศรษฐกิจ
และรวมทั้งการออกจากดินแดนปาตานีเพื่อเผยแพร่ศาสนาอิสลาม ในครั้งนี้จะกล่าวถึงการอพยพของชาวปาตานีไปยังเกาะบอร์เนียว
หรือเกาะกาลีมันตัน สำหรับเกาะกาลีมันตัน หรือเกาะบอร์เนียวนี้ จะกล่าวถึงการอพยพของชาวปาตานีไปยังประเทศบรูไน
รัฐซาบะห์ ประเทศมาเลเซีย และจังหวัดกาลีมันตันตะวันตก ประเทศอินโดเนเซีย
สำหรับการอพยพของชาวปาตานีไปยังประเทศบรูไนนั้น
เท่าที่มีหลักฐานเช่นกรณีของลูกหลานเชคอับดุลราห์มาน เปาเบาะ อัล-ฟาตานี
โดยลูกหลานที่ชื่อว่า ฮัจญีวันสุไลมาน บินวันซูยี ได้อพยพออกจากดินแดนปาตานี โดยครั้งแรกได้อพยพไปยังหมู่บ้านที่ชื่อว่ากำปงอีไบ
ในรัฐตรังกานู ประเทศมาเลเซีย ต่อมาได้เดินทางไปเผยแพร่ศาสนาอิสลามที่ประเทศบรูไน และที่ประเทศบรูไนได้เกิดบุตรชายชื่อว่านายวันซีฮาบุดดิน
โดยผู้นี้มีชื่อเต็มยศถาบรรดาศักดิ์ของประเทศบรูไนว่า Pehin Orang Kaya di
Gadong Awang Shahbuddin
ส่วนรัฐซาบะห์ ประเทศมาเลเซียนั้น
เท่าที่ผู้เขียนทราบจะมีกลุ่มนักการศึกษาเชื้อสายปาตานีที่เดินทางไปทำงานในรัฐซาบะห์จำนวนหนึ่ง แต่บางส่วนจะเดินทางไปในนามของชาวรัฐกลันตัน หนึ่งในจำนวนดังกล่าวคือคุณครูมูฮัมหมัด
อับดุลราห์มาน เป็นคนเชื้อสายปาตานีที่ไปตั้งหลักแหล่งในรัฐซาบะห์
ตำแหน่งสุดท้ายคือผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมในตัวเมืองเอกของรัฐซาบะห์ คือเมืองโกตากีนาบาลู
สำหรับคุณครูมูฮัมหมัด อับดุลราห์มาน นั้นกล่าวว่าพี่สาวของตนเองยังคงอาศัยอยู่ในอำเภอแว้ง
จังหวัดนราธิวาส
นอกจากการเดินทางของชาวปาตานีไปยังประเทศบรูไน
และรัฐซาบะห์ของประเทศมาเลเซียแล้ว
ชาวปาตานีในอดีตส่วนหนึ่งยังเดินทางไปยังเกาะบอร์เนียวหรือเกาะกาลีมันตันส่วนที่เป็นของประเทศอินโดเนเซีย
โดยเฉพาะการเดินทางไปยังจังหวัดกาลีมันตันตะวันตกในปัจจุบัน
ในราวปีทศวรรษที่ 1760
สองนักการศาสนาจากปาตานีคือเชคอับดุลยาลิล
อัล-ฟาตานี และเชคอาลี บินฟาเกะห์
อัล-ฟาตานีพร้อมลูกเรือได้เดินทางไปยังอาณาจักรเมิมปาวะห์ โดยเชคอับดุลยาลิล อัล-ฟาตานีได้เผยแพร่ศาสนาอิสลามที่เมืองซัมบัส
ปัจจุบันสุสานของท่านตั้งอยู่ในลุมบัง เมืองซัมบัส ส่วนเชคอาลี บินฟาเกะห์ อัล-ฟาตานี
ตั้งถิ่นฐานที่หมู่บ้านตันหยง เมืองเมิมปาวะห์ ต่อมาเชคอาลี บินฟาเกะห์
อัล-ฟาตานีได้รับแต่งตั้งจากเจ้าเมืองเมิมปาวะห์ให้เป็นมุฟตีของเมืองเมิมปาวะห์
โดยมีนามเป็นทางการว่า มหาราชาอิหม่ามเมิมปาวะห์
การเดินทางของชาวปาตานีไปยังจังหวัดกาลีมันตันตะวันตกก็ยังคงมี่อยู่ตลอดไป
เช่น ฮัจญีฮัสซัน อัล-ฟาตานี อิหม่ามแห่งมัสยิดญามิอฺ เปอมังกัต อยู่ในอำเภอซัมบัส
จนกระทั่งเมื่ออินโดเนเซียได้รับเอกราช การอพยพของชาวปาตานีจึงหยุดชะงัก
ด้วยประเทศอินโดเนเซียมีระเบียบข้อกฎหมายต่างๆ ถึงอย่างไรก็ตามลูกหลานชาวปาตานียังคงมีอยู่มากมายในเกาะบอร์เนียว
หรือเกาะกาลีมันตัน
ราชวังเมิมปาวะห์
ราชวังซัมบัส
ลูกหลานชาวปาตานีเหล่านี้ยังคงสำนึกในความเป็นผู้สืบเชื้อสายปาตานี
ดังนั้นความรุนแรง ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ยังเป็นความเจ็บปวดของผู้คนกลุ่มหนึ่งในโลกวัฒนธรรมมลายู
Tiada ulasan:
Catat Ulasan