โดยนิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน
ภายหลังจากพระราชาธิบดีองค์ที่
15 ของประเทศมาเลเซียลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมา
อันมาจากหลากหลายปัญหาที่เกิดจากเรื่องส่วนตัวของพระองค์
จึงต้องเลือกเจ้าผู้ครองรัฐองค์ใหม่ขึ้นมาเป็นพระราชาธิบดี ดังนั้นสภาเจ้าผู้ครองรัฐ
หรือ Majlis
Raja Raja อันเป็นสภาของบรรดาเจ้าผู้ครองรัฐประกอบด้วย 9 องค์จาก 9
รัฐของประเทศมาเลเซีย จึงมีมติให้สุลต่านอับดุลลอฮ สุลต่านแห่งรัฐปาหัง
ขึ้นดำรงตำแหน่งพระราชาธิบดี โดยมีพระราชินีชื่อว่า ตุนกูอาซีซะห์ อามีนะห์
อิสกันดาเรียะห์ ประวัติของพระองค์
ประสูติเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 1959 เกิดที่พระราชวังมังฆาตุงฆาล เมืองเปอกัน
รัฐปาหัง
หลังจากจบการศึกษาจากประเทศมาเลเซีย ได้เข้าเรียนต่อที่วิทยาลัยเดวีส์
กรุงลอนดอน และเรียนต่อที่สถาบันการทหารแซนด์เฮิร์ส สหราชอาณาจักร และได้รับการประดับยศเป็นร้อยตรี
โดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ของอังกฤษ และในปี 2004 ได้รับแต่งตั้งเป็นพลตรี
เป็นผู้บัญชาการกองทหารที่ 505 กองทหารรักษาดินแดน
ได้รับแต่งตั้งเป็นราชทายาทของรัฐปาหังในปี 1975 และในปี 1979 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรักษาการสุลต่านแห่งรัฐปาหัง ในขณะที่สุลต่านรัฐปาหัง ผู้เป็พระบิดาไปดำรงตำแหน่งพระราชาธิบดีองค์ที่ 12 และเมื่อ 8 ธันวาคม 2016 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรักษาการสุลต่านแห่งรัฐปาหัง เนื่องจากสุลต่านรัฐปาหัง ผู้เป็พระบิดาประชวร จนเมื่อพระราชาธิบดีองค์ที่ 15 ลาออก จึงเกิดปัญหาทางการเมือง เมื่อวาระเวียนการเป็นพระราชาธิบดีจะเป็นของรัฐปาหัง แต่เมื่อสุลต่านรัฐปาหังประชวร จึงต้องตกเป็นเวียนวาระของรัฐโยโฮร์ แต่ด้วยสุลต่านแห่งรัฐโยโฮร์ไม่ถูกกับดร. มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จึงหาทางออกโดยสุลต่านแห่งรัฐปาหังสละราชสมบัติ หลีกทางให้ราชทายาทขึ้นมาเป็นสุลต่านแทน พร้อมๆกับรับตำแหน่งพระราชาธิบดีแห่งประเทศมาเลเซีย
ซ้ายมือสุลต่านปาหังอยู่ในวัยชรา ต้องเป็นวาระของคนกลางสุลต่านรัฐโยโฮร์