โดย นิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน
Arena Wati นักเขียนเชื้อสายปาตานีจากเกาะสุลาเวซี อินโดเนเซีย ไปสร้างชื่อในมาเลเซีย
มีชื่อเดิมว่านายมูฮัมหมัดดะห์ลัน บินอับดุลเบียง (Muhammad Dahlan bin Abdul Biang)หรือ อันดีโมฮาลัน อันดีเบียง (Andi Mohalan Andi Beang) แต่ส่วนใหญ่จะรู้จักเขาในนามของ อาเรนาวาตี (Arena Wati) เกิดเมื่อ 30 กรกฎาคม 1925 และเสียชีวิตเมื่อ 25 มกราคม 2009 ได้รับเลือกให้เป็นศิลปินแห่งชาติในปี 1988 นอกจากนั้นเขายังมีนามปากกาว่า Duta Muda และ Patria นอกจากนั้นเขายังได้รับรางวัลซีไรต์ (SEA Write Award) ของประเทศไทยในปี 1985 อีกด้วย
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง เขาประกอบอาชีพเป็นนักเดินเรือสินค้าในปี 1943 ประสบการณ์จากการเป็นนักเดินเรือสินค้า เขาสามารถนำประสบการณ์เหล่านั้นไปใช้ในการเขียนหนังสือและเขียนนวนิยาย เขาจบชั้นมัธยมที่มากัสซาร์ในปี 1953
ภายหลังจากจบการศึกษา เขาได้ไปทำงานกับสำนักพิมพ์ในสิงคโปร์
ต่อมาไปทำงานในรัฐโยโฮร์ ประเทศมาเลเซีย และบรูไน โดยในช่วงเวลาดังกล่าว
เขาได้รับสัญชาติมาเลเซียแล้ว และระหว่างปี 1962 ถึงปี 1974 เขาได้ทำงานกับสำนักพิมพ์
Pustaka Antara ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์
Arena Wati เข้าสู่วงการหนังสือพิมพ์ราวปี 1954 และเคยเป็นบรรณาธิการที่สำนักพิมพ์ Pustaka Antara และในที่สุดได้รับเลือกให้เป็นศิลปินแห่งชาติของมาเลเซีย
หรือ Sasterawan Negara ในปี 1988 งานเขียนของเขามีลักษณะวิชาการ งานเชิงจินตนาการ
เขาแต่งงานกับนางฮาลีมะห์ สุหลง (Halimah Sulong) ภรรยาเขาก็เคยบอกผู้เขียนว่าตนเองก็มีเชื้อสายปาตานีเหมือนกัน โดยเขากล่าวว่าตนเองเป็นลูกหลานของปังลีมาอามีเนาะห์ ซึ่งเป็นนักรบสตรีชาวปาตานีที่หนี้ภัยไปยังรัฐโยโฮร์ เขามีบุตรธิดา 6 คน คือ Rahmahwati, Hiryati, Ilhamuddin, Ratna Siti Akbari, Hasanudin และ Kamaluddin Rostov
ผลงานเขียนของเขา
งานนวนิยายชิ้นแรกของเขา
คือ Kisah Tiga Pelayaran พิมพ์ในปี 1959 ที่สิงคโปร์ หลังจากนั้นก็จะมีงานเขียนต่อๆมา เช่น
Lingkaran (1962)
Sandera (1971)
Rontok (1980)
Bunga Dari Kuburan (1987)
Kuntum Tulip Biru (1987)
Sakura Mengorak Kelopak (1987)
Panrita (1993).
Sukma Angin (1999)
Cakra Waruga (KN)
Sebuah Trilogi Tiga Genre(KN)
Sebuah Trilogi Tiga Genre(KT)
Trilogi Busa - Busa Hati
Trilogi Busa - Busa Sukma
Trilogi Busa - Busa Kalbu
Trilogi Armageddon : Mandala (2004)
Trilogi Armageddon : Menorah
Trilogi Armageddon : Pentagon
Warna Sukma Usia Muda
นอกจากนั้นยังมีงานเขียนอื่นๆ เช่น
Eno (1985)
Syair Pangeran Syarif (1989)
Syair Pangeran Syarif Hasyim Al-Qudsi (1989)
Syair Perang Cina Di Monterado (1989)
Burung Badai (1990)
Turina (1991)
Citra (1991)
Memoir Arena Wati Enda Gulingku (1991)
Ombak Samudera (1992)
Meniti Kala by Arena Wati (1993)
Panrita (1993)
Sudara (1994)
ในปกหลังของนวนิยายเรื่อง Sudara เขาได้ใส่เนื้อหาเป็นภาษาบูกิส โดยเนื้อหาดังกล่าวได้กล่าวถึงการอพยพของชาวปาตานีไปยังเกาะสุลาเวซี โดยการนำของดาโต๊ะมหาราชาเลลา ผู้นำชาวปาตานีพร้อมลูกเรือจำนวน 40 ลำเพื่อไปตั้งถิ่นฐานในเกาะสุลาเวซี และเขาก็เป็นหนึ่งในบรรดาลูกหลานชาวปาตานีกลุ่มนั้น
Mevrouw Toga (1995)
Begawan (1996)
Jejak Kreatif oleh Dewan Bahasa dan Pustaka (1996)
Koleksi Terpilih Arena Wati (1996)
Sukma Angin (1999)
Getar-Getir Maya Kumpulan Cerpen (2000)
Trilogi Busa (2002).
Armageddon (2004)
Kutukan Dari Langit (2004)
Langkah Pertama Kumpulan Cerpen Awal, 1954-1959 (2004)
7 Tegak Bersama (2005)
Warna Sukma Usia Muda (2005)
และงานเขียนสุดท้ายคือ Cakra Waruga (2006)
งานเขียนของเขาส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของปัญญาคนผู้ใช้แรงงานและชนชั้นล่าง รวมทั้งงานเขียนปกป้องชนผู้ถูกกดขี่ โดยนำประสบการณ์ของตนเองจากการเดินทางจากเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่งในภูมิภาคมลายู
นวนิยายเรื่อง Sandera ได้รับเลือกให้เป็นวรรณกรรมสำหรับนักเรียนในระดับมัธยมปลาย(ระดับ SPM)ของมาเลเซียในช่วงปีทศวรรษที่ 1980
สำหรับงานเขียนที่ชื่อว่า Trilogi Bara-Baraya เป็นงานเขียนที่เขียนเสร็จในช่วงที่เขารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติมาเลเซีย (HUKM) งานเขียนชิ้นนี้เป็นเรื่องราวการต่อสู้ของชาวมลายูในภูมิภาคมลายู นักเขียนรางวัลศิลปินแห่งชาติอีกคน ซึ่งเป็นเพื่อนของเขา คือนายอับดุลซามัด ซาอิด (A. Samad Said) กล่าวว่า Arena Wati เป็นนักเขียนที่มีคุณค่าในวงการวรรณกรรมของประเทศ
รางวัลเกียรติยศ
เขาได้รับรางวัลซีไรต์ (SEA Write Award) ในปี 1985
ศิลปินแห่งชาติ (Sasterawan Negara)ในปี
1987
งานเขียนเรื่อง Sukma Angin (1999) ดั้บรางวัล Hadiah Sastera
Perdana Malaysia ประจำปี 1998/99
เขาได้รับรางวัลนักเขียนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ Hadiah Sastera Majlis Sastera Asia
Tenggara (Hadiah MASTERA) ในปี 2003 การเสียชีวิตเขาเสียชีวิตจากการเป็นมะเร็งปอด เขารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแห่งชาติมาเลเซีย
(HUKM)
ตั้งแต่ 20 กันยายน 2008 สุสานของเขาตั้งอยู่ที่สุสานอิสลามบูกิตเกียรา
(Tanah Perkuburan Islam Bukit Kiara)ส่วนหนึ่งของงานเขียนของ Arena Wati
