Isnin, 14 Oktober 2024

นายอัซรีซาล นูร์ (Asrizal Nur) นักกวีผู้ประยุกต์การอ่านบทกวีกับมัลตีมีเดีย (Puisi Multimedia) ชาวอินโดเนเซีย

โดย นายนิอับดุลรากิ๊บ  บินนิฮัสซัน

ในปี 2015 เมื่อครั้งที่ผู้เขียนและเพื่อนๆ ร่วมกับบรรดานักศึกษาสาขาวิชามลายูศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้จัดงาน “งานสัมมนาวรรณกรรมภูมิภาคมลายู ครั้งที่ 8” หรือ “Pertemuan Penyair Nusantara VIII” ที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี และจบโครงการสัมมนาครั้งนี้ โดยพักคืนสุดท้ายที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา  ทางผู้เขียนในฐานะเป็นหนึ่งคณะทำงานฝ่ายไทย และรับหน้าที่เป็นประธานจัดงาน“งานสัมมนาวรรณกรรมภูมิภาคมลายู ครั้งที่ 8” หรือ “Pertemuan Penyair Nusantara VIII” ในครั้งนั้น โดยได้เชิญคุณนายอัซรีซาล นูร์ (Asrizal Nur) และทางนายอัซรีซาล นูร์ (Asrizal Nur) ได้เข้าร่วมงานสัมมนาครั้งนั้นด้วยความเต็มใจ  แต่หลังจากนั้นในเวลาต่อมา ผู้เขียนก็ได้ร่วมงานสัมมนาด้านวรรณกรรมในประเทศอินโดเนเซีย หลายต่อหลายครั้ง ให้เห็นถึงการแปลกในการอ่านบทกวีของนายอัซรีซาล นูร์ (Asrizal Nur) โดยการอ่านบทกวีของเขา จะมีการผสมผสานกับมัลตีมีเดีย ที่ในอินโดเนเซีย เรียกว่า Puisi Multimedia ทำให้การอ่านบทกวีของเขาจะแปลกกว่านักกวีคนอื่น และดึงดูดผู้ฟัง ผู้ชมได้เป็นอันมาก  ในครั้งนี้ขอแสดงขอเสนอประวัติ และผลงานของนายอัซรีซาล นูร์ (Asrizal Nur)

นายอัซรีซาล นูร์ (Asrizal Nur)  เกิดที่เมืองเปกันบารู จังหวัดเรียว เมื่อ 16 พฤศจิกายน 1969 เป็นนักเขียน นักกวีชาวอินโดเนเซีย เขามีชื่อเสียงจากบทกวีที่เขียนและอ่านพร้อมผสมผสานกับเสียงดนตรีและมัลตีมีเดียที่มีลักษณะเฉพาะ


นายอัซรีซาล นูร์ (Asrizal Nur)  เป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในผู้ริเริ่มงาน “วันกวีนิพนธ์อินโดเนเซีย-Hari Puisi Indonesia” ซึ่งเป็นที่รู้จักดีที่สุดจากคอนเสิร์ตบทกวีมัลติมีเดียอันตระการตา ซึ่งเป็นผลงานที่มอบสีสันใหม่ให้กับการอ่านและแสดงบทกวีในอินโดเนเซีย เขาแสดงการอ่านบทกวีในประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไนดารุสสาลาม ไทย และเกาหลีใต้


ตั้งแต่วัยเด็ก นายอัซรีซาล นูร์ (Asrizal Nur)  มีส่วนร่วมในงานเกี่ยวกับงานศิลปะและการละคร หลังจากโตขึ้น นายอัซรีซาล นูร์ (Asrizal Nur)  ได้ย้ายไปอยู่กรุงจาการ์ตาในปี 1995 และตั้งแต่ปี 2002 เขาได้อาศัยอยู่ในเมืองเดป๊อก (Depok) ซึ่งเป็นชานเมืองของกรุงจาการ์ตา และเป็นเมืองที่ตั้งของมหาวิทยาลัยอินโดเนเซีย (Universitas Indonesia) ที่มีชื่อของอินโดเนเซีย


ในฐานะศิลปิน นายอัซรีซาล นูร์ (Asrizal Nur) ยังเป็นที่รู้จักในฐานะคนสำคัญที่ทำการละครแรงงาน โดยมีคณะการแสดง ชื่อว่า Sanggar Pabrik โดยเป็นคณะการแสดงที่จะกระตุ้น ให้ผู้ใช้แรงงานตระหนักถึงความสำคัญของชนชั้นแรงงาน โดยผ่านงานศิลปะ อย่างไรก็ตาม ความพยายามของเขา มักถูกขัดขวางโดยรัฐบาลยุคระบบใหม หรือ Orde Baru (ยุคประธานาธิบดีซูฮาร์โต)  ซึ่งจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก ในปี 1995 การแสดงของคณะ Sanggar Pabrik ที่มีชื่อว่า Surat Cinta Kepada Marsinah (จดหมายรักถึงมาร์ซีนะห์) ถูกยกเลิกโดยรัฐ จนต้องขึ้นศาลยุติธรรม จนในที่สุดศาลอินโดเนเซีย ที่เรียกว่า Pengadilan Tata Usaha Negara (PTUN) หรือ Sate Administrative Court ลงมติให้ทางคณะการแสดง Sanggar Pabrik ชนะในศาล หลังจากนั้นรัฐบาลอินโดเนเซีย ได้ออกระเบียบฉบับที่ 3 กำหนดให้ออกแนวปฏิบัติว่ากิจกรรมทางวัฒนธรรมทุกอย่างไม่จำเป็นต้องดำเนินการขอใบอนุญาต และถือว่าข้อระเบียบที่ประกาศนี้ เป็นหนึ่งในคุณูปการด้านศิลปะในประเทศมีความอิสระมากขึ้น ในปี 1997 เขาและภรรยาที่เพิ่งคลอดบุตร และเพื่อนๆ ของพวกเขาถูกจับกุมและจำคุกฐานจัดงานศิลปะเพื่อคนชายขอบ กลุ่มคนใช้แรงงาน แต่หลังจากเข้าสู่ยุคปฏิรูป หรือ ยุคที่ระบบซูฮาร์โตล้มสลาย เขากลับไปทำกิจกรรมทางวัฒนธรรมและจัดอ่านบทกวี รวมทั้งการอ่านบทกวีที่เรียกว่า Puisi Multimedia ทั้งในและต่างประเทศ

เขามีบทบาทในการพัฒนาบทกวีในอินโดเนเซีย นายอัซรีซาล นูร์ (Asrizal Nur) ริเริ่ม "บทกวีมัลติมีเดีย" จากนั้นก็ริเริ่มวันกวีนิพนธ์อินโดเนเซีย (Hari Puisi Indonesia) และยังแนะนำบทกวีอินโดเนเซีย บนเวทีเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ภายในประเทศ นอกเหนือจากการเขียนและอ่านบทกวีแล้ว นายอัซรีซาล นูร์ (Asrizal Nur) ยังทำกิจกรรมต่างๆ อีกด้วย หนึ่งในนั้นทำหน้าที่เป็นผู้ตัดสินในการแข่งขันบทกวีต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นผู้ตัดสินในการแข่งขันอ่านบทกวีระดับชาติที่จัดโดย Forum Muda Cendekia (Formaci) จังหวัดชวากลาง ร่วมกับนักเขียนนามอุโฆษ ฟาติน ฮามามะห์ (Fatin Hamama)และนายเซนดัง มุลยานา (Sendang Mulyana) อาจารย์ของมหาวิทยาลัยดังระดับประเทศอินโดเนเซีย ที่ชื่อว่ามหาวิทยาลัยซือบือลัสมาเร็ต (UNNES)

ในการเคลื่อนไหวทางวัฒนธรรมของนายอัซรีซาล นูร์ (Asrizal Nur) คือการจัดงานที่ชื่อว่า Anugerah Pantun Mutiara Budaya Indonesia โดยเป็นงานที่มีความชื่นชมสูงสุดสำหรับนักเคลื่อนไหวด้านวรรณกรรมที่เรียกว่าปันตุน (Pantun) ในอินโดเนเซีย ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2020 ที่เมืองบาตัม จังหวัดหมู่เกาะเรียว สำหรับอินโดเนเซีย มีนโยบายหนึ่ง ที่บางประเทศอาจจะไม่มี นั้นคือการสนับสนุนนักกวี นักวรรณกรรมในการสร้างหน่วยงาน สถานที่สร้างกิจกรรมด้านวรรณกรรม วัฒนธรรม ผู้เขียนมีเพื่อนนักเขียนคนหนึ่ง เป็นข้าราชการระดับสูง มีบทบาทในทางการเมือง กล่าวว่า เขามีที่ดินผืนหนึ่งบนเกาะที่เขาเกิด ต่อไปจะเมื่อเกษียณจากราชการ เขาจะของบประมาณจากรัฐบาลมาสร้างอาคารเพื่อกิจกรรมทางวรรณกรรม ทางวัฒนธรรม ด้วยรัฐบาลอินโดเนเซีย มีนโยบายเกี่ยวกับการสนับสนุนด้านวรรณกรรม ด้านวัฒนธรรม ทำให้ผู้เขียนเข้าใจนายอัซรีซาล นูร์ (Asrizal Nur) มากขึ้น เมื่อเพื่อนจากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้คนหนึ่งเคยพูดว่าไม่รู้ว่า นายอัซรีซาล นูร์ (Asrizal Nur) เขาของบประมาณจากรัฐบาลอย่างไรในการสร้างบ้านของเขา เพื่อเป็นบ้านทำกิจกรรมด้านวรรณกรรม วัฒนธรรม ภายใต้ชื่อว่า Rumah Seni Asrizal Nur ต่อมาได้จัดตั้งกลุ่มนักวรรณกรรมภายใต้ชื่อ Perkumpulan Rumah Seni Seni Asrizal Nur หรือชื่อย่อว่า PERRUAS โดยผู้เขียนรับเป็นตัวแทนกลายๆของกลุ่ม  Perkumpulan Rumah Seni Asrizal Nur สำหรับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้


บทกวีของนายอัซรีซาล นูร์ (Asrizal Nur) หัวข้อ “Negeri Pantun


Negeri Pantun

(Kepada Tanungpinang)

Aku saksikan mata air kata

Meluap di lafaz pemantun

Jika berlabuh di dermaga kota

Dipeluk peradaban negeri pantunahkan


Bahkan laut bahkan ikan

Riak air dan gelombang

Pantai, pasir dan awan

Nelayan dan air pasang


Air memberi kata ke laut

Riaknya berpantun gelombang

Gelombang seru bertaut

Mengalir pantun di air pasang


Air pasang berpantun pada ikan

Ikan membalas kata riang

Riang kata umpan nelayan

Ikan dipancing dibawa pulang


Ikan pantun di lahap perut kota

Jadikan orang berlidah pantun

Tuntun cakap, mematut kata

Adat Melayu bertuah santun


Asrizal Nur

Tanjungpinang, 2007.

จากหนังสือ Lambaian Nusantara dari Kota Singa โดยมี Djamal Tukimn และ Ahmad Tahir เป็นบรรณาธิการ เป็นหนังสือเนื่องในโอกาสจัดงาน Pertemuan Penyair Nusantara VII


สำหรับกลุ่มนักวรรณกรรมภายใต้ชื่อ Perkumpulan Rumah Seni หรือชื่อย่อว่า PERRUAS ได้ทำกิจกรรมต่างๆ เช่น


2019 จัดงาน Festival Literais Perruas

2020 จัดงาน Gerakan Menulis Pantun Budaya

2021 จัดงาน Gerakan 1000 Guru Asean Menulis Pantun

ต่อมาจัดงาน rekor MURI เป็นการรวมเล่มบทกวีประเภทปันตุนที่เป็นเล่มหนาที่สุด


รางวัลที่นายอัซรีซาล นูร์ (Asrizal Nur) ได้รับ

ชนะเลิศอ่านบทกวีระดับชาติ Lomba Baca Puisi Piala HB Jassin (1996)

รางวัล Anugerah Sagang สำหรับนักนักวรรณกรรมชาวจังหวัดเรียว 2007


องค์กรทางสังคม

ประธาน Paguyuban Seniman Indonesia SBSI (1996-2000)

ผู้ก่อตั้งสมาคมที่ชื่อว่า Persatuan Artis Melayu Dangdut Indonesia เมืองเดป๊อก (Depok)

ประธานสภาศิลปวัฒนธรรมเมืองเดป๊อก หรือ Dewan Kesenian Depok ( 2015 – ปัจจุบัน)

ประธานมูลนิธิที่ชื่อว่า Yayasan Panggung Melayu (2005 – 2014)

ประธานกลุ่ม Perkumpulan Rumah Seni Asnur

เลขาธิการมูลนิธิที่ชื่อว่า Yayasan Hari Puisi Indonesia (2004 – ปัจจุบัน)


ผลงานของนายอัซรีซาล นูร์ (Asrizal Nur)

Sang yang Hitam (1992)

Umar Bin Khattab (1992)

Merambah Belantara Naga (1993)

Antologi Puisi Nusantara (2006)

Rampai Melayu Asia Tenggara (2006)

Kumpulan puisi Portugal, Malaysia dan Indonesia (2008)

Percakapan Pohon dan Penebang (YPM, 2009)

Musi, Pertemuan Penyair Nusantara V (2011)

Kumpulan Puisi dan Cerpen Internasional Jilfest: Ibu Kota Keberaksaraan (2011)

Lambaian Nusantara Dari Kota Singa, Antologi puisi bersama Pertemuan Penyair Nusantara VII (2014)

Antologi Puisi Asean, The Vice Of Humanity (2015)

Pulara 5 (2015)

อาจารย์รุซณี ซูสารอ แห่งคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ในครั้งเดินทางไปศึกษา ค้นคว้าเพื่อทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดเนเซีย ได้มีโอกาสไปเยี่ยมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับนายอัซรีซาล นูร์ และสัมพัสบ้านที่ทำเป็นที่ทำกิจกรรมของกลุ่มนักวรรณกรรมภายใต้ชื่อ Perkumpulan Rumah Seni หรือชื่อย่อว่า PERRUAS และได้นำหนังสือที่ผลิตโดยกลุ่ม Perkumpulan Rumah Seni หรือ  PERRUAS มาให้ผู้เขียน


Tiada ulasan: