Ekonomi/Bisnis

Ahad, 28 Jun 2015

ภาษามลายูอักขระยาวี : จังหวัดชายแดนภาคใต้ และโลกมลาย

โดย นิอับดุลรากิ๊บ  บินนิฮัสซัน
     จากการเกิดเหตุการณ์ไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้นับตั้งแต่ปี 2547  สิ่งหนึ่งที่รัฐไทยใช้ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว คือการคืนอัตลักษณ์มลายูกลับคืนสู่สังคมมลายูในพื้นที่ดังกล่าว  และหนึ่งในนั้นคือการส่งเสริมให้มีการเพิ่มภาษามลายูอักขระยาวีในป้ายสถานที่ราชการต่างๆ ซึ่งมีการดำเนินการทั้งในระดับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และในระดับจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะจังหวัดปัตตานี  แต่การเพิ่มภาษามลายูอักขระยาวีในป้ายสถานที่ราชการต่างๆนั้น เต็มไปด้วยอุปสรรค ด้วยภาษามลายูอักขระยาวีในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้นมีหลากหลายสำนักแนวคิด
       
       ก่อนที่ชาวมลายูจะรับศาสนาอิสลามนั้น ชาวมลายูก็มีอักขระที่ใช้อยู่แล้ว เรียกว่าอักขระปัลลาวา ต่อมาเมื่อชาวมลายูเข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม จึงมีการนำอักขระยาวีมาใช้  อักขระยาวีคือการนำอักขระอาหรับมาใช้ในการเขียนภาษามลายู พร้อมเพิ่มอักขระขึ้นมาใหม่ที่ไม่มีเสียงในภาษาอาหรับอีก 5 อักขระ คือ  چ ڠ ڤ ڽ ݢ  ปัจจุบันเพิ่มอักขระอีก 2 อักขระ คือ ۏ  ى (ไม่มี 2 จุดอยู่ใต้อักขระ สำหรับสระ เ-อ)

คำว่า อักขระยาวี (Aksara Jawi) เป็นที่เรียกกันในประเทศมาเลเซีย จังหวัดชายแดนภาคใต้ สิงคโปร์ และบรูไนดารุสสาลาม ส่วนในประเทศอินโดเนเซียนั้น จะเรียกว่า อักขระมลายูอาหรับ  เพื่อไม่ให้สับสนกับอักขระยาวีในประเทศดังกล่าว ด้วยอักขระยาวีในประเทศอินโดเนเซีย หมายถึงอักขระชวาที่ใช้ในการเขียนภาษาชวา แต่ถ้าใช้อักขระอาหรับที่มีการเพิ่มอักขระที่ไม่มีเสียงในภาษาอาหรับเหมือนอักขระยาวีในประเทศมาเลเซีย จังหวัดชายแดนภาคใต้ สิงคโปร์ และบรูไนดารุสสาลาม จะเรียกว่าอักขระเปฆอน (Aksara Pegon) ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เขียนภาษาชวาในสถานศึกษาศาสนาอิสลามในเกาะชวา
รูปแบบการเขียนอักขระยาวีมีหลากหลายรูปแบบ แต่ที่มีชื่อเสียงคือการเขียนแบบซาอฺบา (Za’ba)  ซึ่งคิดค้นโดยนักวิชาการมาเลเซียที่ชื่อว่า Zainal Abidin Ahmad (Za’ba)  โดยเขาเขียนหนังสือชื่อ Daftar Ejaan Melayu (Jawi-Rumi) หรือ การสะกดภาษามลายู (อักขระยาวี-อักขระรูมี)ในปี 1949
.              ต่อมามีการพัฒนารูปแบบการเขียนอักขระยาวี  โดยในปี 1986 มีการเขียนหนังสืออีกเล่มชื่อว่า Pedoman Ejaan Jawi yang Disempurnakan หรือ แนวการสะกดอักขระยาวีที่สมบูรณ์แบบ เป็นหนังสือที่สรุปจากการประชุมสัมมนาการเขียนอักขระยาวีระดับชาติของมาเลเซียในปี 1984   และจากผลสรุปของการประชุมสัมมนาในปี 1984  รวมกับผลจากการประชุมการเขียนอักขระยาวีของศูนย์อิสลาม สำนักนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย  ในปี 1991 และการประชุมสัมมนาการเขียนอักขระยาวีระดับชาติของมาเลเซียในปี 1993 โดยทางคณะกรรมการการสะกดอักขระยาวีของศูนย์อิสลาม สำนักนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย  และสภาภาษาและวรรณกรรมของมาเลเซีย (Dewan Bahasa dan Pustaka) ได้ดำเนินการศึกษาในระหว่างปี  1993-1994
จนต่อมาทำให้เกิดพัฒนารูปแบบการเขียนอักขระยาวี ใช้ชื่อว่า Pedoman Umum Ejaan Jawi Bahasa Melayu หรือ แนวการสะกดอักขระยาวีในภาษามลายู ซึ่งกลายเป็นหนังสือชื่อ Daftar Kata Bahasa Melayu (Rumi-Sebutan-Jawi ( Jilid 1-2 หรือ รวมคำศัพท์ภาษามลายู (อักขระรูมีเป็นอักขระยาวี)  เล่ม 1-2 พิมพ์ในปี 2005 โดยสภาภาษาและวรรณกรรมของมาเลเซีย (Dewan Bahasa dan Pustaka) ซึ่งบางครั้งจะรู้จักในชื่อว่าการเขียนอักขระยาวีแบบเดวัน
อักขระยาวีแบบซาอฺบา (Za’ba)กับอักขระยาวีแบบเดวัน
                การเขียนอักขระยาวีแบบเดวันก็ยังคงใช้พื้นฐานของการเขียนอักขระยาวีแบบซาอฺบา (Za’ba)  เพียงมีการพัฒนา โดยการเพิ่มอักขระตัว V จาก و เป็น ۏ   รวมทั้งอักขระ ف  ที่ใช้ได้ทั้ง ป และ ฟ  เช่น فتا อ่านว่า เปอตา หมายถึง แผ่นที่ หรือ فجر อ่านว่า ฟายาร์ หมายถึง รุ่งอรุณ แต่การเขียนอักขระยาวีแบบเดวัน จะมีการแยกชัดเจนระหว่าง ป จะใช้ ڤ และ ฟ จะใช้ ف  คือ เปอตา จากเขียน فتا  กลายเป็น ڤتا  ส่วนคำว่า ฟายาร์ คงเดิมเป็น فجر
             ส่วนหนึ่งก็มีการเพิ่มอักขระ ا ในคำศัพท์เดิมที่ไม่มี เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน เช่น คำว่า เมือง หรือ บันดาร์ จาก بندر  มาเป็น باندر   คำบางคำมีการเขียนคำเดียว แต่อ่านได้ 2 แบบ เช่น لنتيق  อ่านได้ทั้ง ลันติก (แต่งตั้ง) และเลินติก (งอน) การเพิ่มอักขระ ا ในคำต่างๆเหล่านี้ ไม่ค่อยจะเป็นที่ยอมรับของคนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยชินกับการเขียนในรูปแบบเดิม
                อักขระยาวีของจังหวัดชายแดนภาคใต้จะไปในทิศทางใด
                ถ้าเรายังยึดติดกับท้องถิ่น ยึดติดกับจารีตนิยม และต้องการให้คนในท้องถิ่นอ่าน ต้องการให้คนในท้องถิ่นนิยม ก็ต้องใช้ในรูปแบบของอักขระยาวีแบบซาอฺบา (Za’ba)  แต่ถ้าเราต้องการให้สอดคล้องกับการใช้อักขระยาวีในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไน เราก็ต้องใช้อักขระยาวีแบบเดวัน แม้ในระยะแรกๆอาจจะไม่ได้รับการยอมรับ และถูกต่อต้านบ้างจากผู้คนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ 
เมื่อประชาคมอาเซียนเกิดขึ้นในปี 2558 อะไรจะเกิดขึ้นกับการใช้ภาษามลายูอักขระยาวีในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้าเราจะผลิตตำราศาสนาอิสลามในภาษามลายูอักขระยาวี เพื่อจัดจำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้านเช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และบรูไนดารุสสาลาม  เราก็ต้องปรับตัวการใช้ภาษามลายูอักขระยาวีให้เหมือนเขา จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ใช่วิ่งอยู่กับที่  แต่ต้องเคลื่อนไปข้างหน้า เคลื่อนให้ทันการใช้ภาษามลายูอักขระยาวีในประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าว

Tiada ulasan:

Catat Ulasan