โดย นิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน
เรามารู้จักนิตยสารวรรณกรรมฉบับหนึ่งในอินโดเนเซีย นิตยสารที่ว่าคือ นิตยสาร Horison เป็นนิตยสารที่ตีพิมพ์ผลงานวรรณกรรมในอินโดเนเซียโดยเฉพาะ
นิตยสารนี้ตีพิมพ์ครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 1966 ที่กรุงจาการ์ตา นิตยสารฉบับนี้ก่อตั้งโดยนาย
Mochtar Lubis นาย P.K. Ojong นาย Zaini นาย Arief Budiman และนาย Taufiq Ismail โดยนิตยสารฉบับนี้มีจุดประสงค์เพื่อนักเขียนและนักเคลื่อนไหวทางวรรณกรรมทั่วอินโดเนเซีย
เมื่อนิตยสารฉบับนี้พัฒนาขึ้น นิตยสาร Horison นี้ไม่เพียงแต่ได้รับความนิยมในหมู่นักเขียนเท่านั้น
แต่ยังได้รับความนิยมจากประชาชนทั่วไปทั่วอินโดนีเซียอีกด้วย ตั้งแต่ปี 1996Horison ได้เพิ่มส่วนแทรกใหม่ที่มุ่งเป้าไปที่ครูและนักเรียน
ส่วนแทรกนี้ซึ่งต่อมากลายเป็นคอลัมน์ถาวร มีชื่อว่า Kakilangit
ในปี 1966 ขณะที่อินโดเนเซียกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่
แนวคิดต่างๆ
เกี่ยวกับการตีพิมพ์นิตยสารที่สามารถแสดงออกถึงเสรีภาพทางความคิดและการพูดได้ผุดขึ้นมา
แนวคิดเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมกับการปรากฏตัวของการประท้วงของนักศึกษาที่เรียกว่า Tritura หรือ Tri Tuntutan Rakyat ย่อว่า Tritura คือข้อเรียกร้อง 3 ประการที่มีต่อรัฐบาล
เป็นข้อเรียกร้องของนักศึกษาที่รวมกันภายใต้องค์กรที่ชื่อว่า Kesatuan Aksi Mahasiswa
Indonesia (KAMI) ที่มีการเดินประท้วงระหว่างวันที่ 10 มกราคมถึง 11 มีนาคม
1966 นายโซ ฮก ยิน (Soe Hok Djien) นักศึกษาคณะจิตวิทยา
มหาวิทยาลัยอินโดเนเซีย และเป็นที่รู้จักในฐานะบุคคลสำคัญในการประท้วง ได้แอบพบกับนายมอคตาร์
ลูบิส (Mochtar Lubis) ที่เรือนจำที่ชื่อว่าเรือนจำซาเล็มบาในช่วงเวลานั้น
โดยที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ นายมอคตาร์ ลูบิส (Mochtar Lubis) เป็นอดีตบรรณาธิการบริหารของนิตยสารอินโดเนเซียรายา ซึ่งถูกประธานาธิบดีซูการ์โนคุมขังอยู่
เนื่องจากจุดยืนที่ต่อต้านรัฐบาลของหนังสือพิมพ์ของนายโซ ฮก
ยิน (Soe Hok Djien) หรือที่รู้จักกันในชื่อ นายอารีฟ บูดีมาน
เป็นคนแรกที่เล่าให้นายมอคตาร์ ลูบิส (Mochtar Lubis) ฟังเกี่ยวกับสถานการณ์ของวงการวรรณกรรม
รวมถึงการที่รัฐบาลสั่งห้ามตามกฎ Manikebu ย่อว่า Manifesto Kebudayaan เป็นหลักการที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมในปี
1963 ของอินโดเนเซีย
ที่คัดกับหลักการของ Lekra (Lembaga
Kebudayaan Rakyat) ซึ่งเป็นฝ่ายซ้าย-สังคนิยม และมีการยุติการทำงานของ นาย
เอช.บี. จัสซีน (HB Jassin)และนาย Wiratmo Soekito การสนทนาจึงเปลี่ยนไปสู่ความเป็นไปได้ในการตีพิมพ์นิตยสารวรรณกรรมที่ดี
นิตยสารวรรณกรรมฉบับสุดท้ายที่เคยตีพิมพ์คือนิตยสาร Sastra ซึ่งบริหารโดย นาย เอช.บี. ยาซีน
อย่างไรก็ตาม
นิตยสารได้หยุดตีพิมพ์ไปเมื่อหนึ่งปีก่อนหน้านั้นเนื่องจากการโจมตีอย่างรุนแรงจาก Lekra ทางนายมอคตาร์ ลูบิส (Mochtar Lubis) เห็นด้วย เขาตื่นเต้นและดีใจมากถึงกับสัญญากับนายอารีฟ
บูดีมาน ว่า เมื่อเขาได้รับการปล่อยตัว เขาจะพยายามติดต่อเพื่อนๆ เพื่อระดมทุน
หลังจากที่นายมอคตาร์ ลูบิส (Mochtar Lubis) ได้รับการปล่อยตัวในวันที่ 17 พฤษภาคม นายมอคตาร์ ลูบิส (Mochtar Lubis) ได้นึกถึงนายอารีฟ
บูดีมาน และพานายอารีฟ บูดีมาน ไปพบปะกับเพื่อนๆ นักธุรกิจในเมือง จากนั้น
หลังจากระดมทุนได้สำเร็จและหาพื้นที่สำนักงานได้
พวกเขาก็เริ่มจัดตั้งคณะบรรณาธิการ นอกจากนายมอคตาร์ ลูบิส (Mochtar Lubis) และนายอารีฟ บูดีมาน แล้ว
สมาชิกคณะกรรมการยังประกอบด้วย นายเอชบี ยาซีน นายดีเอส โมลจันโต (DS Moeljanto) นายไซนี และนายเตาฟิก
อิสมาอิล มีการตกลงกันว่านิตยสารจะใช้ชื่อว่า Horison
ซึ่งหมายถึง
"ขอบฟ้าอันไกลโพ้น"
โดยหวังว่านิตยสารฉบับนี้จะช่วยขยายขอบเขตความคิดซึ่งกระจัดกระจายอยู่ในขณะนั้น
นิตยสาร Horison ตีพิมพ์รายเดือน ด้วยเหตุนี้ จึงมีการจัดตั้งมูลนิธิขึ้นก่อนหน้านี้ในชื่อ มูลนิธิอินโดเนเซีย หรือ Yayasan Indonesia เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้จัดพิมพ์นิตยสารวรรณกรรมฉบับนี้ มูลนิธิดังกล่าวมีนายมอคตาร์ ลูบิส (Mochtar Lubis) เป็นประธาน และนายอารีฟ บูดีมาน เป็นเลขานุการ โดยจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 1966 ในการประชุมมูลนิธิเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ณ บ้านของนายมอคตาร์ ลูบิส (Mochtar Lubis)ที่ถนนโบนัง 17 (Jalan Bonang 17) ได้มีการจัดตั้งโครงสร้างผู้ดูแลนิตยสารขึ้น โดยมีนายมอคตาร์ ลูบิส (Mochtar Lubis)เป็นผู้จัดการทั่วไป/ผู้รับผิดชอบ และมีสมาชิก ได้แก่ นายเอชบี ยาซีน(HB Jassin) นายไซนี(Zaini) นายดีเอส โมเลจันโต(DS Moeljanto) นายเตาฟิก อิสมาแอล(Taufik Ismail) และนายอารีฟ บูดิมาน(Arief Budiman)
เพื่อจัดการการดำเนินงานประจำวันของสิ่งพิมพ์
สำนักงานบรรณาธิการจึงใช้บ้านของมอคตาร์ ลูบิส (Mochtar Lubis)เป็นสำนักงานชั่วคราว
ในขณะที่สำนักงานบริหารตั้งอยู่ที่สำนักงานบรรณาธิการของ Kompas ที่ถนนปินตูบือซาร์ใต้ 86-88 (Jalan Pintu Besar Selatan 86-88) นิตยสาร Horison ถูกพิมพ์ที่โรงพิมพ์อางิน ถนนบลอรา 36 (Percetakan Angin, Jalan Blora 36)
ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานบรรณาธิการของนิตยสารรายสัปดาห์ Pembina ด้วยความใจดีของนายเอเอช ชาฮับ (AH Shahab) เจ้าของนิตยสารรายสัปดาห์ Pembina ตามคำบอกเล่าของนายดีเอส
โมลจันโต สำนักงานบรรณาธิการของนิตยสาร Horison ตั้งอยู่บนชั้นบนที่อากาศร้อนจัด
การต่อสู้ยังไม่จบสิ้นเพราะนิตยสาร Horison ยังไม่มีใบอนุญาตการจัดซื้อกระดาษ (SIPKI- Surat Izin Pembelian
Kertas) อย่างไรก็ตาม
ด้วยความคล่องแคล่วของนายอารีฟ บูดิมาน ทางนิตยสาร Horison ได้รับการติดหนี้ค่ากระดาษจากนายฮาซิล
ตันซิล แห่งบริษัท PT Pembangunan
ในกลางเดือนกรกฎาคม 1966 ฉบับแรกของนิตยสาร Horison ได้ถูกตีพิมพ์
ภาพหน้าปกเป็นเพียงแผ่นกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ตกแต่งด้วยภาพขาวดำของโปสเตอร์ Sriwidodo ซึ่งอิงจากบทกวี "Karangan Bunga" ที่ได้รับความนิยมในขณะนั้นของนายเตาฟิก
อิสมาแอล
นิตยสารวรรณกรรมฉบับนี้ได้เข้าสู่ห้องสมุดโรงเรียนโดยริเริ่มกิจกรรมต่างๆ
มากมาย รวมถึงโครงการนำวรรณกรรมไปสู่โรงเรียน กิจกรรมเหล่านี้บางส่วนได้แก่ MMAS (membaca, menulis,
apresiasi sastra - การอ่าน การเขียน
และการชื่นชมวรรณกรรม) SBMM (sastrawan bicara, mahasiswa membaca - นักวรรณกรรมพูด นักเรียนนักศึกษาอ่าน)
และ SBSB (sastrawan bicara, siswa
bertanya - นักวรรณกรรมพูด นักเรียนนักศึกษาตั้งคำถาม)
นิตยสาร Horison ฉบับออนไลน์
ในโอกาสครบรอบ 50 ปี เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2016 ทีมบรรณาธิการของ นิตยสาร Horison ได้ตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบการตีพิมพ์นิตยสารจากแบบออฟไลน์หรือแบบพิมพ์ไปเป็นแบบออนไลน์
และมีการแขวนนิตยสาร Horison ฉบับ pdf ตั้งแต่ปี 1966 ด้วย
มีเอกสารเพิ่มเติมเพื่อความรู้เพิ่ม
Muhamad Rifki Abdul Basit, Majalah Sastra Horison: Potret
Kesussastraan Indonesia Angkatan 66 (1966-1970), Universitas Pendidikan Indonesia,
Bandung, 2022.
Nur
Fitriana Faoziah, Tesis BA, Perkembangan Majalah Horison Tahun 1966-1975. UIN
Sunan Gunung Djati, 2020
Sahidah, Penggunaan Kohesi Gramatikal Dalam Puisi Pada
Majalah Horison (Suatu Analisis Wacana),Tesis BA, Universitas Hasanuddin, 2007.
Rasidah Erowatin, Ahmad Bahtiar, Sejarah Sastra
Indonesia, Lembaga Penelitian UIN Syarif Hidayattullah Jakarta, 2011.
,_Juli_1966.png)






Tiada ulasan:
Catat Ulasan