Ekonomi/Bisnis

Ahad, 27 Oktober 2013

นักศึกษามลายูศึกษา มอ. ปัตตานีกับค่ายเยาวชนองค์กรโลกมลายูโลกมุสลิม ที่รัฐมะละกา ประเทศมาเลเซีย

โดย นิอับดุลรากิ๊บ บินนิฮัสซัน
เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผู้เขียนได้รับหนังสือเชิญจากดาโต๊ะวีรา ฮัจญีฮารุน  อิดริส มุขมนตรีแห่งรัฐมะละกา ในฐานะประธานฝ่ายเยาวชนขององค์การโลกมลายูโลกอิสลามให้ส่งเยาวชน นักศึกษาเข้าร่วมโครงการค่ายเยาวชนองค์การโลกมลายูโลกอิสลาม (Dunia Melayu Dunia Islam) ระหว่างวันที่  24-30 ตุลาคม 2013 ดังนั้นผู้เขียนจึงถือว่าเป็นโอกาสของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีที่ผู้เขียนทำงานอยู่ จะได้มีโอกาสเข้าร่วมหาประสบการณ์ในค่ายเยาวชนครั้งนี้  ผู้เขียนได้ร่วมงาน ร่วมกิจกรรมขององค์การโลกมลายูโลกอิสลามมาราว 8 กว่าปีแล้ว ดังนั้นถือเป็นเรื่องปกติที่ทางองค์การโลกมลายูโลกอิสลาม ซึ่งเป็นองค์กรหน่วยงานรัฐที่สังกัดสำนักมุขมนตรีแห่งรัฐมะละกา จะต้องเชิญร่วมงาน

ในการคัดเลือกผู้เข้าเรียนค่ายเยาวชนครั้งนี้ โดยที่ผู้เขียนได้ใช้วิธีเปิดโอกาสให้นักศึกษาวิชาเอกมลายูศึกษา นักศึกษาวิชาโทมลายูศึกษา และนักศึกษาวิชาเอกภาษามลายู  การคัดเลือกโดยใช้นักศึกษาแกนนำแต่ละคนเป็นผู้รวบรวมรายชื่อ  การคัดเลือกมีปัญหาบ้าง บางคนต้องการเดินทางเข้าร่วมแต่ไม่มีพาสปอร์ต บางคนต้องการเข้าร่วมแต่ทำพาสปอร์ตแล้ว พาสปอร์ตยังไม่ได้รับ  ทำให้ไม่สามารถเดินทางร่วมได้ 
 
เมื่อได้จำนวนนักศึกษาแล้ว จึงส่งรายชื่อไปยังรัฐมะละกา ด้วยจำนวนนักศึกษามีถึง 28 คน ซึ่งถือว่ามีจำนวนมาก ลำบากในการเคลื่อนย้าย ดังนั้นผู้เขียนจึงตรวจสอบเส้นทางการเดินทางที่น่าจะสะดวกที่สุด มีเส้นทางหลายเส้นทางที่จะไปรัฐมะละกา เช่น

1.  โดยสารรถตู้จากปัตตานีไปหาดใหญ่ และขึ้นรถบัสจากหาดใหญ่ไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ และจากสถานีรถบัสในกรุงกัวลาลัมเปอร์ไปยังสถานีขนส่งสายใต้ (Terminal Bersepadu Selatan) จากนั้นจึงขึ้นรถบัสไปยังรัฐมะละกา ความลำบากจะอยู่ที่การเคลื่อนย้ายจากสถานีขนส่งในตัวเมืองไปยังสถานีขนส่งสายใต้

2. โดยสารรถตู้หรือรถสองแถวเพื่อประหยัดไปยังตลากตากใบ อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส จากนั้นข้ามแม่น้ำสุไหงโกลกไปยังตลาดปังกาลันกูโบร์ อำเภอตุมปัต รัฐกลันตัน มาเลเซีย  จากนั้นมี 2 ทางเลือก คือ ขึ้นรถบัสบางบริษัทที่ตลาดปังกาลันกูโบร์ หรือเดินทางด้วยรถบัสไปยังตัวเมืองโกตาบารู เมืองเอกของรัฐกลันตัน จากนั้นขึ้นรถบัสที่เมืองโกตาบารูไปยังรัฐมะละกา

สุดท้ายก็เลือกเส้นทางที่สอง โดยกำหนดให้นักศึกษาขึ้นรถที่ตลาดปังกาลันกูโบร์ตรงไปยังรัฐมะละกา  โดยให้นักศึกษาผู้รับผิดชอบเป็นผู้ประสานกับคนขายตั๋วรถบัส ประสานกับรถสองแถวที่จะใช้ในการเดินทางจากปัตตานีไปยังตลาดตาบา
โดยการดำเนินการทั้งหมดนักศึกษาจะเป็นผู้ดำเนินการเอง ไม่ว่าจะเป็นการไปยังรัฐมะละกาด้วยตัวเอง ผมทำหน้าที่เพียงผู้ประสานงาน  พร้อมมอบหมายเลขโทรศัพท์ของผู้รับผิดชอบในรัฐมะละกา ให้นักศึกษาติดต่อเมื่อเดินทางถึงรัฐมะละกา โดยผมจะเดินทางไปในภายหลัง  ในวันที่  23 ตุลาคม 2013  เมื่อนักศึกษาเดินทางถึงตลาดตาบา ผู้เขียนจึงเดินทางจากตัวเมืองนราธิวาสไปยังตลาดตาบา พบปะนักศึกษา พร้อมให้นักศึกษารักษาชื่อเสียงของนักศึกษา ของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ และชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย  แม้ว่าการเดินทางจะเป็นการเดินทางที่ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว การประสานงานที่เป็นส่วนตัว แต่การเดินทางของคณะนักศึกษาก็ผ่านการขออนุมัติการเดินทางจากรองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและวัฒนธรรม มอ. ปัตตานี

หลังจากนั้นจึงแจ้งกำหนดการของงานค่ายเยาวชนองค์การโลกมลายูโลกอิสลามที่ทางรัฐมะละกาส่งมา ซึ่งได้รับการแจ้งว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงความความเหมาะสมและเป็นจริง ซึ่งมีกิจกรรมต่างๆดังต่อไปนี้

 วันที่  24 ตุลาคม 2013  
ช่วงเช้าถึงเย็นจะเป็นการลงทะเบียนเยาวชนที่มาจากประเทศต่างๆ เพราะมาจากหลากหลายประเทศและเวลาที่มาถึงรัฐมะละกาก็แตกต่างกัน เช่นจากประเทศมาเลเซียเจ้าภาพ อินโดเนเซีย สิงคโปร์ จังหวัดชายแดนภาคใต้ อัฟริกาใต้ ศรีลังกา สำหรับคณะนักศึกษามลายูศึกษาเดินทางถึงรัฐมะละกาในช่วงเช้า หลังจากนั้นทางคณะจัดงานได้เดินทางมารับที่สถานีขนส่งมะละกาเซนตรัล (Melaka Sentral) แล้วไปส่งที่หมู่บ้านครอบครัวอุปถัมภ์ ด้วยปีนี้มีเยาวชนจากประเทศอินโดเนเซียค่อนข้างมากเกินไป มีจำนวนถึง 370 คน ดังนั้นจึงมีผลกระทบกับคณะนักศึกษามลายูศึกษาทำให้ต้องแบ่งนักศึกษากับนักศึกษาหญิงออกเป็นเพียง 2 บ้าน จากเดิมๆที่มีการแยกกันอยู่คนละบ้าน

พอช่วงเย็น ศาตราจารย์ ดร. อาบูบาการ์ มูฮัมหมัดดียะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี่ และนวัตกรรมของมาเลเซีย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเจ้าของเขตพื้นที่ ทำพิธีมอบเยาวชนให้กับบรรดาครอบครัวอุปถัมภ์ของหมู่บ้านปายารุมปุตจายา (Kampung Paya Rumput Jaya)

วันที่  25 ตุลาคม 2013
ช่วงเช้าทำกิจกรรมพัฒนาพื้นที่บริเวณหมู่บ้าน สันทนาการกับครอบครัวอุปถัมภ์  ช่วงกลางคืนทำพิธีเปิดโครงการค่ายเยาวชนองค์การโลกมลายูโลกอิสลาม (Dunia Melayu Dunia Islam) โดยนายไครี ยามาลุดดิน บินอาบูบาการ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชนและการกีฬาของมาเลเซีย  เป็นผู้เปิดพิธี และนายดาโต๊ะวีรา ฮัจญีฮารุน  อิดริส มุขมนตรีแห่งรัฐมะละกา ในฐานะประธานฝ่ายเยาวชนขององค์การโลกมลายูโลกอิสลามได้กล่าวการต้อนรับเยาวชนจากประเทศต่างๆ  

วันที่  26 ตุลาคม 2013  
ช่วงเช้าไปเยี่ยมการประกอบอุตสาหกรรมครอบครัว  เดินทางไปเยี่ยมพิพิธภัณฑ์ฮังตูวะห์  ช่วงบ่ายเดินทางไปชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในตัวเมือง  และช่วงกลางคืนมีการแสดงทางวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ

วันที่  27 ตุลาคม 2013  
ช่วงเช้าคณะเยาวชนประเทศต่างๆได้เข้าร่วมการสัมมนา ซึ่งแบ่งออกเป็นหลากหลายสถานที่ ทั้งฝ่ายศาสนา สตรี ด้านภาษา  สำหรับคณะนักศึกษามลายูศึกษาได้เดินทางไปเข้าร่วมการสัมมนาด้านภาษามลายู ช่วงกลางคืนจะเป็นพิธีปิดโครงการค่ายเยาวชนองค์การโลกมลายูโลกอิสลาม (Dunia Melayu Dunia Islam) โดยดาโต๊ะวีรา ฮัจญีฮารุน  อิดริส มุขมนตรีแห่งรัฐมะละกา ในฐานะประธานฝ่ายเยาวชนขององค์การโลกมลายูโลกอิสลาม จะทำหน้าที่พิธีปิด และมอบประกาศนียบัตรแก่เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการค่ายเยาวชนองค์การโลกมลายูโลกอิสลาม (Dunia Melayu Dunia Islam)

วันที่  28 ตุลาคม 2013
 ช่วงเช้าคณะนักศึกษามลายูศึกษาได้เข้าร่วมงานประชุมใหญ่ขององค์การโลกมลายูโลกอิสลาม (Dunia Melayu Dunia Islam) โดยแต่ละคนจะได้รับกระเป๋าเป้คนละใบ หลังจากนั้นก็เข้าร่วมการเสวนา ซึ่งทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่ายจะเป็นการเสวนาของฝ่ายต่างๆ โดยผูเขียนบังคับให้นักศึกษาเข้าร่วมในการเสวนาของฝ่ายเศรษฐกิจ อย่างน้อยเราก็จะได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจบ้าง
 
วันที่  29 ตุลาคม 2013  
ช่วงเช้าคณะนักศึกษามลายูศึกษาได้เข้าร่วมงานประชุมใหญ่ขององค์การโลกมลายูโลกอิสลาม (Dunia Melayu Dunia Islam) หลังจากนั้นก็เข้าร่วมการเสวนา ซึ่งทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่ายจะเป็นการเสวนาของบุคคลจากประเทศต่างๆ  สำหรับผู้เขียนได้ร่วมเสวนากับหัวข้อเรื่อง “Pendidikan dan Ekonomi Dalam Mewujudkan Keamanan dan Ksejahteraan Umat Melayu Umat Islam” โดยร่วมเสวนากับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของประเทศกัมพูชา ตัวแทนชาวมลายูศรีลังกา รองประธานองค์กร Jamiah Singapura จากประเทศสิงคโปร์ โดยมีศาตราจารย์ ดร. อาบูบาการ์ มูฮัมหมัดดียะห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี่ และนวัตกรรมของมาเลเซีย เป็นผู้ดำเนินการเสวนา
วันที่  30 ตุลาคม 2013
ช่วงเช้าจะเป็นการสรุปผลจากการจัดประชุมใหญ่ขององค์การโลกมลายูโลกอิสลาม (Dunia Melayu Dunia Islam) หลังจากนั้นจะมอบของที่ระลึกให้แก่ตัวแทนผู้เข้าร่วมจากประเทศต่างๆ  หลังจากรับประทานอาหารเที่ยงเสร็จ ราวเที่ยงกว่าๆคณะนักศึกษาและเยาวชนจากประเทศต่างๆเดินทางกลับไปยังหมู่บ้านของครอบครัวอุปถัมภ์  โดยคณะนักศึกษามลายูศึกษาทางครอบครัวอุปถัมภ์ได้พาไปเลี้ยงอาหารที่บริเวณช่องแคบมะละกา  หลังจากนั้นจึงขึ้นรถบัสที่สถานีขนส่งมะละกาเซนตรัล (Melaka Sentral)เดินทางไปยังกรุงกัวลาลัมเปอร์ และจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ขึ้นรถบัสกลับไปยังรัฐกลันตัน โดยรถบัสมีปลายทางที่ตลาดปังกาปันกูโบร์  เมื่อเช้าตรู่ของวันที่  31 ตุลาคม 2013  ก็เดินทางถึงตลาดปังกาปันกูโบร์  จากนั้นข้ามแม่น้ำสุไหงโกลกไปยังตลาดตาบา อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส คณะนักศึกษาลงมติขอกลับปัตตานีด้วยรถตู้ เพราะค่อนข้างเหนื่อยกับการเดินทางครั้งนี้

สิ่งที่ได้จากการเข้าร่วมค่ายเยาวชนองค์การโลกมลายูโลกอิสลาม (Dunia Melayu Dunia Islam)
1. นักศึกษาได้มีครอบครัวอุปถัมภ์ในรัฐมะละกา ในโอกาสต่อไป เมื่อจะเดินทางไปยังรัฐมะละกา ก็มีครอบครัวอุปถัมภ์ จึงไม่จำเป็นต้องหาโรงแรม ความสัมพันธ์นี้เป็นเรื่องส่วนตัว ส่วนบุคคลที่แต่ละคนต้องสานกันเอง
2.  นักศึกษาได้มีเพื่อนใหม่ที่มาจากหลากหลายประเทศ ซึ่งสามารถสร้างเครือข่ายต่อไปในอนาคต
3. นักศึกษาได้ความรู้ ได้ประสบการณ์จากการเข้าร่วมงานประชุมใหญ่องค์การโลกมลายูโลกอิสลาม (Dunia Melayu Dunia Islam) ซึ่งก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่จะได้สร้างความรู้จัก สร้างเครือข่ายต่อไป

Tiada ulasan:

Catat Ulasan