Ekonomi/Bisnis

Rabu, 27 Februari 2013

สาธารณรัฐแห่งแรกในประเทศอินโดเนเซีย

โดยนายนิอับดุลรากิ๊บ   บินนิฮัสซัน

ประเทศอินโดเนเซียได้ประกาศเอกราชและจัดตั้งประเทศเป็นสาธารณรัฐ  เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 1945  แต่น้อยคนที่จะรู้ว่าก่อนอินโดเนเซียจะจัดตั้งประเทศเป็นสาธารณรัฐนั้น  ได้เคยมีสาธารณรัฐเล็กๆ เกิดขึ้นในดินแดนบริเวณนั้นมาแล้ว โดยมีชื่อว่า สาธารณรัฐลันฟาง หรือ Republic of Lan Fang  เป็นสาธารณรัฐของชาวจีนแคะที่อพยพไปตั้งถิ่นฐานบนเกาะกาลีมันตัน ของประเทศอินโดเนเซียในปัจจุบัน  ความเป็นมาของสาธารณรัฐลานฟางถูกบันทึกโดยนายยับ ซียง โยน บุตรเขยของผู้นำคนสุดท้ายแห่งสาธารณรัฐลานฟาง ซึ่งถูกแปลเป็นภาษาฮอลันดาในปี 1885 ทำให้ได้ทราบความเป็นมาของสาธารณรัฐ
                                                   แผนที่ประเทศอินโดเนเซีย 
คุณ จอย กา ไฟ ชาวสิงคโปร์ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการมีอยู่ของสาธารณรัฐลานฟาง ซึ่งเขาได้จัดทำ Time Line ของสาธารณรัฐลานฟาง 
แรกเริ่มในปี 1740 ชาวจีนจากแดนดินใหญ่  ได้ถูกสุลต่านแห่งรัฐเมิมปาวะห์  เกาะกาลีมันตันนำไปทำเหมืองแร่ทองในดินแดนรัฐดังกล่าว  โดยมีการแบ่งทองที่ได้จากการทำเหมืองให้แก่สุลต่าน  ในหลายๆปีต่อมากลุ่มชาวจีนเห็นว่าการทำเหมืองในดินแดนของรัฐซัมบัสได้ผลดีกว่า จึงมีชาวจีนส่วนหนึ่งอพยพไปทำเหมืองแร่ในดินแดนของรัฐซัมบัส  การทำเหมืองของชาวจีนใช้ระบบกองสี  ทำให้มีกองสีอยู่นับสิบกว่าแห่ง ทั้งที่อยู่ในดินแดนของรัฐเมิมปาวะห์และรัฐซัมบัส
 สื่อสารมวลชนที่ลงบทความเกี่ยวกับสาธารณรัฐลานฟาง
นายโล ฟอง ปัก ได้เดินทางมายังรัฐซัมบัสในปี 1775  และได้เป็นหัวหน้าของกงสีลานฟาง  ต่อมาในปี 1777  ได้ย้ายกงสีของตนเองออกจากรัฐซัมบัส ไปตั้งอยู่ในรัฐเมิมปาวะห์  หลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐปอนเตียนักแล้ว ในปี 1789 ทางสุลต่านแห่งปอนเตียนักได้โจมตีชิงดินแดนจากรัฐเมิมปาวะห์ โดยทางกองสีลานฟางได้ช่วยเหลือส่งกำลังเข้าร่วมกับสุลต่านแห่งปอนเตียนักด้วยจนได้รับชัยชนะ  ต่อมาสุลต่านแห่งปอนเตียนักได้มอบอำนาจแก่กองสีลานฟางให้มีความอิสระในการปกครองตนเอง
รูปวาดของนายโล ฟอง ปัก
แผนที่ตั้งของสาธารณรัฐลานฟางในเกาะกาลีมันตัน
 โล ฟอง ปัก ได้จัดตั้งสาธารณรัฐลันฟาง โดยมีเมืองหลวงตั้งอยู่ที่วันจินตะวันออก เพื่อปกป้องชาวจีนและคนพื้นเมืองจากการกดขี่ของชาวฮอลันดา  ผู้ตั้งถิ่นฐานได้เลือก โลเป็นประธานาธิบดี  เขาได้ตั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ  และฝ่ายยุติธรรม  แต่สาธารณรัฐไม่มีกองทัพ  จะมีเพียงกระทรวงกลาโหม  มีการแบ่งการปกครองออกเป็นจังหวัด อำเภอ และเทศบาล ซึ่งแต่ละหน่วยจะเลือกผู้นำเป็นของตนเอง   โลเป็นผู้นำรัฐจนกระทั่งเสียชีวิตในปี 1795  หลังจากนั้นชาวลานฟาง ได้เลือกเจียง วู โบ เป็นประธานาธิบดีคนต่อไป   ชาวสาธารณรัฐลันฟางมีผู้นำทั้งหมด 12 คน ซึ่งมีส่วนในการพัฒนาด้านการเกษตร การทำเหมือง การจัดฝึกด้านการทหาร  ทำให้ชาวพื้นเมืองเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐลันฟาง
สถานที่ในบริเวณสาธารณรัฐลานฟาง
ลูกหลานรุ่นสุดท้ายของนายโล ฟอง ปัก ในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน
                          ฮอลันดาพยายามจะควบคุมสาธารณรัฐลานฟาง ซึ่งสาธารณรัฐลานฟางได้ต่อสู้กับฮอลันดาถึง 4 ปี ต่อมาในปี 1884 พ่ายแพ้ต่อฮอลันดา จนกลายเป็นดินแดนภายใต้อารักขาของฮอลันดา  บางส่วนของชาวสาธารณรัฐลานฟางจึงอพยพหนีไปยังเกาะสุมาตรา โดยเฉพาะไปตั้งถิ่นฐานในเมืองเมดาน และบางส่วนหนีไปตั้งถิ่นฐานในประเทศสิงคโปร์  และกล่าวกันว่านายลี กวน ยิว อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศสิงคโปร์นั้นเป็นลูกหลานของชาวสาธารณรัฐลานฟางที่หนีไปตั้งถิ่นฐานที่นั่น นักวิชาการบางส่วนมีความเห็นว่าสาธารณรัฐลานฟางนั้นไม่ได้มีสถานะเป็นสาธารณรัฐอย่างแท้จริง เป็นเพียงดินแดนอิสระที่ยังคงอยู่ภายใต้อำนาจของสุลต่านแห่งปอนเตียนัก  ซึ่งจะอย่างไรก็ตามก็ต้องถือว่าสาธารณรัฐลานฟาง หรือดินแดนปกครองอิสระของชาวจีนแคะที่ชื่อว่าลานฟาง เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของโลกมลายู

Tiada ulasan:

Catat Ulasan