Isnin, 17 Julai 2017

ขบวนการอาเจะห์เสรี ตอนที่ 8

โดย นิอับดุลรากิ๊บ  บินนิฮัสซัน
เพิ่งในปี  1989 ความขัดแย้งในอาเจะห์ออกสู่ต่อสาธารณชนอย่างเปิดเผยในขณะนั้นมีการทำโครงการกองทัพ  อินโดนีเซียเข้าสู่ทปูทัน ( ABRI  Masuk  Desa  หรือ AMD )  ที่หมู่บ้านโกตามะมูร์   อาเจะห์เหนือไม่ไกลจากเมืองอุตสาหกรรมโละซือมาเว  มีอดีตทหารยศสิบตรีที่ใช้ชื่อว่าโรเบิร์ต ได้เปิดเผยตัวและเรียกตนเองว่าเป็นผู้บัญชาการรบของขบวนการอาเจะห์เสรี   ( AGAM ) ซึ่งเป็นปีกทหารของขบวนการอาเจะห์เสรี  โรเบิร์ตพร้อมผู้สนับสนุนได้จู่โจมสมาชิกกองทัพอินโดนีเซียที่กำลังดำเนินโครงการกองทัพอินโดนีเซียเข้าสู่หมู่บ้าน  อาวุธจำนวน  18 กระบอกของสมาชิกกองทัพอินโดนีเซีย   ถูกพวกเขายึดแล้วพาหนีเข้าป่า   ความจริงแล้วโรเบิร์ตไม่ใช้ชื่อปกติของชาวอาเจะห์  โดยรวมแล้วนับคือศาสนาอิสลาม  ด้วยเหตุนี้โรเบิร์ตจึงได้ก่อการร้ายที่โน้นที่นี้ก่อนจะพาหนีไปยังประเทศมาเลเซีย  เขานั้นเองที่ทำให้เกิดพื้นที่ปฏิบัติการทางการทหาร  (  Daerah  operasi  M iliter ) ที่ดินแดนที่ร่ำรวยด้วยทรัพยากรก๊าซธรรมชาติ   ความจริงแล้ว  ขณะนั้นอาเจะห์เหนือกำลังจะไปสู่การเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม  และมีการแก่งแย่งกันในกลุ่ใหลากหลายผลประโยชน์  ขณะที่ประชาชนอาเจะห์เองเริ่มมีคำถามถึงการแบ่งโควต้าผลประโยชน์ระดับชาติที่ไม่ยุติธรรม   จากหลายคำถามนี้มีจำนวนมากที่สงสัยว่าโรเบิร์ตนั้นเป็นส่วนหนึ่งของการเล่นผลประโยชน์ที่อาเจะห์   นั้นคือผลประโยชน์ทำให้มีความชอบธรรมในการปราบปรามประชาชนและผู้นำท้องถิ่นที่วิพากษ์  วิจารณ์ การพัฒนาอาเจะห์ ที่ได้สร้างปัญหาให้เกิดขึ้นในสังคม

ความจริงแล้วการแสดงออกโดยการวิพากษ์  วิจารณ์ ไม่เคยเกิดขึ้นในยุคเก่า   การแสดงออกนี้เกิดจากบรรดาผู้นำดารุลอิสลาม / กองทัพอิสลามอินโดนีเซียภายใต้การนำของดาวุด  บือเระห์ ที่ร็สึกว่าถูกหลอกโดยซูการ์โน   ทำไมจะไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อปี  1962  พวกเขาได้กลับสู่อ้อมอกของสาธารณรัฐอินโดนีเซีย   เพราะรัฐบาลซูการ์โนสัญญาว่าจะดำเนินตามหลักการซารีอะห์ในอาเจะห์   เพื่อการนี้กฎหมายซารีอะห์ได้ถูกร่างขึ้นโดยทั้งสองฝ่าย  แต่สัญญานั้นไม่เคยได้รับการปฏิบัติ   เมื่อเกิดรัฐบาลยุคใหม่ก็ไม่มีอะไรบ่งบอกว่าสัญญานี้จะได้รับการปฏิบัติ  สิ่งที่เกิดขึ้นคือรัฐบาลซูอาร์โตมีการสร้างอุตสาหกรรมต่างๆ ในช่วงทศวรรษที่  1970  โดยไม่มีคำอธิบายว่ามีประโยชน์อย่างไรแก่ประชาชนชาวอาเจะห์  ประชาชนเองก็รู้สึกว่าการเข้ามาของอุตสาหกรรมหลากหลายชนิดนั้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพวกเรา  ซึ่งเริ่มกอบโกยความร่ำรวยจากพื้นดินแดนของพวกเขา

จากการที่ได้เห็นสิ่งเหล่านี้  ในปี  1972  ดาวุด  บือเราะห์  ผู้นำดารุลอิสลาม / กองทัพอิสลามอินโดนีเซีย  จึงรวบรวมเพื่อนๆ เพื่อฟื้นฝูการต่อสู้กับรัฐบาลส่วนกลางอีกครั้งในการพบปะครั้งนั้น  ผู้ที่เข้าร่วมคือ  เต็งกู  อิลยัส  ลือบี, เต็งกู  ฮัสบี  กือดง  , มุคตาร์ , ยาห์ยา เต็งกูเฟาซี  ฮัสบี กือดง  ,  เต็งกู  ยูซุฟ  ฮาซัน , เต็งกูจามิล  ซัมซุดดิน , อาเยาะห์ซาบี , อูซีร์  เจลานี , เต็งกู  มูฮัมหมัด ยูนุส , กึมบัง  ตันยง  และเต็งกูซัยนาล  อาบีดิน  ในการพบปะกันครั้งนั้นปรากฎว่าพันเอกฮาซัน  ซาและห์  อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพอิสลามอาเจะห์ไม่ได้เข้าร่วม  ภายหลังทราบว่าอาซัน  ซาและห์มีการเคลื่อนไหวรณรงค์  หาเลี้ยงให้พรรคไกลการ์ที่จะมีการเลือกตั้งในปี  1977  ตรงกันข้ามในการพบปะกันครั้งแรกนั้น  อดีตสมาชิกดารุลอิสลาม / กองทัพอิสลามอินโดนีเซียนั้นได้ลงมติให้ดำเนินการต่อสู้จัดตั้งรัฐอิสลามโดยเป็นสาธารณรัฐอิสลาม  อาเจะห์  หลังจากที่ขาดช่วงไปขณะหนึ่ง  ที่สำคัญมากกว่านั้นคือพวกเขาได้เห็นชอบให้ดำเนินการต่อสู้ประชาชนชาวอาเจะห์ทั้งมวลว่าการเมืองของรัฐบาลยุคใหม่ภายใต้การนำของซูฮาร์โต  เหมือนกับซูการ์โน  ซึ่งได้ออกนอกเส้นทางที่ถูกต้อง  หรือว่าตามหลักการชารีอะห์

ในฐานะที่เป็นผู้นำ  ดาวุด  บือเระห์  สำนึกว่าการต่อสู้กับรัฐบาลซูฮาร์โตนี้จะต้องได้รับการสนับสนุนจากกำลังทางทหารอย่างมากที่สุด  ถ้าไม่มีสิ่งนั้น  ประสบการณ์ที่ข่มขื่นในขณะที่ต่อสู้กับซูการ์โนจะกลับมาหลอกหลอนพวกเขาอีก   ในเรื่องนี้  ดาวุด  บือเระห์  นึกถึงฮาซัน  ตีโร ที่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในรัฐโคลัมเบีย  สหรัฐอเมริกา  การเดนทางไปยังเมืองลุงแซมของฮาซัน  ตีโรดังกล่าว  ภายหลังจากการได้รับทุนจากแผนโคลัมโบ ( Colombo  Plan ) ในมุมมองของดาวุด  บือเระห์  เด็กหนุ่มชาวอาเจะห์คนนี้สามารถหาอาวุธเพื่อการต่อสู้ของประชาชนอาเวะห์  จนกระทั้งปี  1972  ดาวุด  บือเระห์ ได้ส่งพี่ชายของฮาซัน  ตีโรที่ชื่อว่า  ซัยนาล อาบีดิน  เพื่อพบปะน้องชายของน้องที่สหรัฐโดยเจรจาเกี่ยวกับอาวุธในการต่อสู้  ซัยนาล  อาบีดิน  เช่น  รัฐมนตรีมหาดไทยของรัฐบาลรัฐอิสลามอาเจะห์  ภายใต้การนำของฮาซัน  อาลี  ในการพบปะของพี่น้องครั้งนั้น  ฮาซัน  ตีโร ได้ให้ความมั่นใจว่าอาวุธทุกประเภทนั้นได้มีการเตรียมพร้อมแล้ว  เริ่มจากอาวุธเบาและหนัก  รอเพียงการส่งไปยังอาเจะห์  และไดทำคำยืนยันจากน้องชายของเขาไปยังดาวุด  บือเระห์ 

อย่างไรก็ตาม  มีคำบอกเล่าอื่นกล่าวว่าแนวคิดต้องการให้ประชาชนชาวอาเจะห์กลับมาก่อกบฏนั้นเกิดขึ้นจากฮาซัน  ตีโร   ขณะนั้นในปี  1970  ซัยนาล  อาบีดิน  เพิ่งกลับจากการเดินทาง  ไปเยี่ยมน้องชายที่กำลังศึกษาด้านกฎหมายอยู่ที่โคลัมเบียสหรัฐอเมริกา  ขณะที่พบปะกับพี่ชายของเขา  ฮาซัน  ตีโร  ได้ฝากคำพูดต่อดาวุด  บือเระห์  ขอให้ประชาชนชาวอาเจะห์ได้ก่อกบฎต่อรัฐบาลสาธารณรัฐอินโดนีเซียภายใต้การนำของ ซูฮาร์โตอีกครั้ง  คำถามมีว่าในท่ามกลางที่มีประเด็นร้อนนั้นจะเกิดการก่อกบฏในอาเจะห์อีกครั้งโดยผู้นำที่แข็งกร้าวของอาเจะห์   ที่ชื่อว่า จามิล อามีน  ได้พบปะฮาซัน  ซาเละห์ที่เมืองสุกาบูมี  ชาวตะวันตก  ขณะนั้นจามิลได้เล่าเรื่องตามที่ได้รับการบอกจากฮาซัน  ตีโรว่าสหรัฐจะช่วยเหลือให้ประชาชนชาวอาเจะห์ได้ก่อกบฏต่อรัฐบาลอินโดนีเซีย








Tiada ulasan: