Sabtu, 28 Jun 2014

นักศึกษาสาขาวิชามลายูศึกษา มอ. ปัตตานี ฝึกงานที่พิพิธภัณฑ์แห่งรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย

โดย นิอับดุลรากิ๊บ  บินนิฮัสซัน
ในช่วงปิดเทอมใหญ่ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ทางศูนย์นูซันตาราศึกษา ได้จัดส่งนักศึกษาไปฝึกงานที่พิพิธภัณฑ์แห่งรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย โดยมีนักศึกษาสาขาวิชาเอกมลายูศึกษาจำนวน 5 คน ไปฝึกงานเป็นเวลา 2 เดือน จึงขอประมวลภาพต่างๆของคณะนักศึกษาดังกล่าวมาเสนอดังต่อไปนี้




Isnin, 16 Jun 2014

ชาวปาตานีในโลกมลายู (ตอนที่ 3)

โดย นิอับดุลรากิ๊บ  บินนิฮัสซัน

การอพยพของชาวปาตานีในโลกมลายูตอนนี้จะกล่าวถึงการอพยพของชาวปาตานีไปยังเกาะสุลาเวซีมาตราและเกาะบูตน ซึ่งเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงกับเกาะสุลาเวซี รวมทั้งการอพยพของชาวปาตานีไปยังเกาะชวา
ครั้งหนึ่งในงานสัมมนาที่จัดขึ้นในรัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย ผู้เขียนได้พบกับนักเขียนศิลปินแห่งชาติของมาเลเซียท่านหนึ่ง นักเขียนนามอุโฆษที่มีนามปากกาว่า อาเรนา วาตี  และเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลซีไรต์ในปี 1985 ซึ่งผู้เขียนติดตามงานเขียนของท่านในหนังสือพิมพ์มาเลเซียตลอด ในครั้งนั้นสร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้เขียนเป็นอย่างมาก เพราะผู้เขียนเข้าใจว่าท่านเป็นผู้ที่อพยพมาจากเกาะสุลาเวซี จึงเป็นชนชาวบูกิส แต่ปรากฏว่าท่านอธิบายว่าแม้จะเกิดที่เกาะสุลาเวซี มีบิดามารดาเป็นชาวเกาะสุลาเวซี แต่ความจริงท่านเป็นลูกหลานของชาวปาตานีที่อพยพไปตั้งถิ่นฐานในเกาะดังกล่าวเมื่อหลายร้อยปีมาแล้ว



ก่อนหน้านั้นนักเขียนชาวเกาะสุลาเวซีอีกคน คือ นายซัฟรุลลอฮ ซันเร ก็ได้บอกกับผู้เขียนว่าเขาคือลูกหลานอีกคนหนึ่งของชาวปาตานีที่อพยพไปตั้งถิ่นฐานในเกาะสุลาเวซี จากการค้นคว้า ทำให้พบว่าเรือสินค้าจากปาตานีไปทำการค้าระหว่างปาตานีกับเกาะสุลาเวซีมาเป็นเวลานานแล้ว และในปี 1602-1632 ในช่วงที่มีสงครามระหว่างสยามกับปาตานีนั้น ชาวปาตานีภายใต้การนำของดาโต๊ะมหาราชาเลลา พร้อมเรือนับหลายสิบลำไปอพยพไปตั้งถิ่นฐานในเกาะสุลาเวซี ในครั้งนั้นได้นำธงปาตานีที่ชื่อว่าธง Buluh Perindu ไปด้วย  ที่เมืองโกวา ทางดาโต๊ะมหาราชาเลลาขออนุญาตตั้งถิ่นฐานในเมืองดังกล่าว ทางกษัตริย์เมืองโกวาที่ชื่อว่า กษัตริอีมางารางี ดาเอง มารับเบีย ก็ยินดีให้ชาวปาตานีตั้งถิ่นฐานในเมืองโกวา พร้อมแต่งตั้ง  ดาโต๊ะมหาราชาเลลาให้เป็นผู้นำของชุมชนชาวมลายูดังกล่าว โดยชุมชนที่ตั้งขึ้นมามีชื่อว่าหมู่บ้านปาตานี  เมื่อครั้งได้ร่วมงานสัมมนาด้านเอกสารโบราณที่เมืองยอกยาการ์ตา ประเทศอินโดเนเซีย ทางผู้เข้าร่วมงานที่มาจากเกาะสุลาเวซีได้ยืนยันถึงการมีอยู่ของชุมชนชาวปาตานีในเกาะดังกล่าว



สำหรับเกาะบูตนนั้น  กล่าวกันว่ารัฐบูตนเป็นรัฐที่เข้ารับอิสลามในยุคกษัตริย์บูตนองค์ที่ 6 ซึ่งมีชื่อว่ากษัตริย์ลากีปนโต ซึ่งพระองค์ได้เข้ารับศาสนาอิสลามโดยนักการศาสนาที่มาจากปาตานีที่ชื่อว่า เชคอับดุลวาฮิด บินชารีฟสุไลมาน อัลฟาตานี กล่าวกันว่าท่านมาจากโยโฮร์-ปาตานี 

ส่วนการมีอยู่ของชุมชนชาวปาตานีในเกาะชวานั้น จะกล่าวในส่วนที่ตั้งอยู่ในกรุงจาการ์ตาในปัจจุบัน ซึ่งรู้จักในชื่อว่า หมู่บ้านมลายู หรือ กำปงมลายู ตั้งอยู่ในเขตยาตีเนอฆารา จาการ์ตาตะวันออก กล่าวกันว่าเป็นชุมชนชาวมลายูที่ตั้งขึ้นมาในศตวรรษที่ 17 โดยมีผู้นำครั้งนั้นคือวันอับดุลบาฆุส ซึ่งเป็นบุตรของเจ๊ะบาฆุส เป็นชาวปาตานี วันอับดุลบาฆุสสิ้นชีวิตในปี 1716 สำหรับผู้นำต่อมาคือวันมูฮัมหมัด ถึงอย่างไรก็ตามด้วยกาลเวลาที่ยาวนาน ทำให้ร่องรอยของชาวปาตานีเหล่านั้นได้มีการผสมกลมกลืนกับชนพื้นเมือง ซึ่งอาจเรียกได้ว่าความเป็นชาวปาตานีได้สูญหายไปแล้ว จากการเดินทางของผู้เขียนไปยังชุมชนดังกล่าว ทำให้ผู้เขียนได้รับเอกสารความเป็นมาและรายชื่อบรรดาอิหม่ามของมัสยิดในชุมชนดังกล่าว ซึ่งก็ยังคงร่องรอยของมลายูอยู่บ้าง
การค้นหาร่องรอยของชุมชนชาวปาตานีในโลกมลายู เป็นสิ่งที่สมควรที่จะต้องดำเนินการต่อไป เพื่อสร้างเครือข่าย สร้างความสัมพันธ์ระหว่างปาตานีกับลูกหลานของชาวปาตานีที่ตั้งถิ่นฐานในโลกมลายู สิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการที่จะให้ปาตานีเป็นประตูสู่โลกมลายูต่อไป

Jumaat, 13 Jun 2014

ชาวปาตานีในโลกมลายู (ตอนที่ 2)

โดย นิอับดุลรากิ๊บ  บินนิฮัสซัน

การอพยพของชาวปาตานีในโลกมลายูครั้งนี้จะเป็นการอพยพสู่เกาะสุมาตรา ซึ่งเกาะสุมาตรานี้ประกอบด้วยจังหวัดต่างๆ ถึง 11 จังหวัดนั้น ปรากฎว่ามีหลายจังหวัดที่มีร่องรอยการชาวอพยพของชาวปาตานี เช่น การอพยพไปยังจังหวัดเรียว  จังหวัดหมู่เกาะเรียว และจังหวัดจัมบี
เริ่มด้วยจังหวัดเรียว ซึ่งเป็นจังหวัดที่ถือว่าร่ำรวยมากจังหวัดหนึ่ง  ในจังหวัดนี้มีร่องรอยการเดินทางของชาวปาตานีในยุคก่อนอินโดเนเซียได้รับเอกราชไปยังอาณาจักรเซียะอินทราปุรา ซึ่งปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดเรียว  เป็นการเดินทางของนักการศาสนาที่ชื่อว่าเชคอับดุลราห์มาน ฆูดัง  ว่ากันว่าท่านเป็นมิตรสหายของโต๊ะกลาพอ นักการศาสนานามอุโฆษแห่งบ้านกลาบอ อำเภอสายบุรี จังหวักปัตตานี ท่านเดินทางไปยังอาณาจักรเซียะอินทราปุรา โดยสอนศาสนา รวมทั้งวิชาดาราศาสตร์ในราชสำนักเซียะอินทราปุรารวมทั้งแก่ประชาชนทั่วไป ต่อมาบุตรของท่านที่ชื่อว่า ฮัจญีมูฮัมหมัดซอและห์ อัล-ฟาตานี ได้แต่งงานกับบุตรสาวของดาโต๊ะฮัมซะห์ บินเอนดุตขุนนางที่สำคัญของราชสำนักเซียะอินทราปุรา  ฮัจญีมูฮัมหมัดซอและห์ อัล-ฟาตานีเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงกิจการศาสนาของอินโดเนเซีย มีบุตรหลานจำนวนหนึ่ง
                สำหรับจังหวัดจัมบีนั้นก็มีร่องรอยของชาวอินโดเนเซียเชื้อสายปาตานีเช่นกัน ด้วยเต็งกูมาห์มุดซุหดี อัล-ฟาตานี นักการศาสนาจากบ้านสมเด็จ กรุงเทพฯ ซึ่งได้ตั้งถิ่นฐานที่เมืองจัมบี ต่อมาเมื่อท่านได้รับการเชิญจากสุลต่านสุไลมานแห่งรัฐสลังงอร์ มาเลเซียให้เป็นมุฟตี(ผู้นำศาสนา)ของรัฐสลังงอร์ แต่ชาวจัมบียังต้องการท่านอีก ท่านจึงให้บุตรชายที่ชื่อเต็งกูมูฮัมหมัด อัล-ฟาตานีไปทำหน้าที่แทนท่านที่จังหวัดจัมบี และบุตรหลานเชื้อสายปาตานีของท่านก็ยังคงตั้งถิ่นฐานในจังหวัดจัมบีจนถึงปัจจุบัน
                นอกจากสองจังหวัดดังกล่าวแล้ว อีกจังหวัดหนึ่งคือจังหวัดหมู่เกาะเรียว ซึ่งเดิมเป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดเรียว บรรดาเกาะต่างๆในจังหวัดหมู่เกาะเรียว เช่น เกาะนาตูนา เกาะเซียนตัน เกาะเยอมายา และเกาะตัมเบอลัน ล้วนเป้นเกาะที่เคยเป็นที่แวะพักของบรรดานักเดินเรือชาวปาตานี  สำหรับเกาะนาตูนานั้นกล่าวกันว่าเกาะนี้บุกเบิกโดยชาวปาตานี ผู้ปกครองเกาะนาตูนาล้วนมาจากผู้ที่มีคำว่า”วัน”นำหน้าชื่อ ซึ่งคำว่า”วัน”นี้มาจากชื่อชาวปาตานี  ส่วนที่เกาะบูงูรัน มีสุสานหนึ่งที่มีชื่อเสียง รู้จักในนามของ “กรามัตบินไย ”ว่ากันว่าเป็นสุสานของนักการศาสนาที่มาจากปาตานี
                บนเกาะมีได มีนักการศึกษาจากเชื้อสายปาตานีได้เดินทางเผยแพร่ศาสนาอิสลามที่นั่น ท่านผู้นี้มีชื่อว่า วันอับดุลราห์มาน บินวันอาบูบาการ์  ท่านได้สร้างมัสยิดบัยตุรราห์มาน และได้รับเลือกให้เป็นอิหม่ามคนแรกของมัสยิดดังกล่าว  ไม่เพียงการเดินทางไปตั้งถิ่นฐานและเผยแพร่ศาสนาของชาวปาตานีเท่านั้น แม้แต่ศิลปะการแสดงประเภทหนึ่งของชาวมลายูบริเวณเกาะต่างๆ เช่น เกาะนาตูนา เกาะบูงูรัน เกาะเซียนตัน ที่เรียกว่า “มึนดู” ว่ากันว่าได้รับอิทธิพลมาจากปาตานี  แต่ที่แน่ๆ การแสดงมะโหย่ง ที่มีต้นกำเนิดจากปาตานีนั้น ก็มีการแสดงที่หมู่เกาะเรียว เพียงแต่มะโหย่งที่หมู่เกาะเรียวจะแตกต่างจากปาตานี-กลันตัน ตรงที่นั่นจะใส่หน้ากาก
 
ผู้เขียนได้เดินทางไปยังเกาะบินตัน ก็ได้พบเอกสารบันทึกการละเล่นมะโหย่ง ซึ่งกล่าวว่ามาจากปาตานีโดยผ่านสิงคโปร์  จะเห็นได้ว่าเกาะสุมาตรา และหมู่เกาะเรียว ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่เป็นแหล่งตั้งถื่นฐานของชาวปาตานีในโลกมลายู