Jumaat, 15 Mac 2013

ปฏิบัติการยึดรัฐซาบะห์ มาเลเซีย : ปฏิบัติการฆ่าตัวตายของกองกำลังติดอาวุธรัฐสุลต่านซูลู ภาคใต้ฟิลิปปินส์

โดย นิอับดุลรากิ๊บ  บินนิฮัสซัน
การที่กองทัพสุลต่านแห่งซูลู  ซึ่งสังกัดสุลต่านซูลูที่ชื่อว่า สุลต่านจามาลุล กีรามที่ 3 จากหมู่เกาะซูลู ภาคใต้ฟิลิปปินส์ ได้ยกพลขึ้นยึดหมู่บ้านตันดูวอ ใกล้กับเมืองลาฮัตดาตู ในรัฐซาบะห์ ประเทศมาเลเซีย  โดยทางรัฐบาลมาเลเซียให้เวลาในการเจรจา แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จในการเจรจา จนในที่สุดทางรัฐบาลมาเลเซียจึงใช้วิธีการปราบอย่างรุนแรง

รัฐซาบะห์เป็นของใคร
กล่าวกันว่าเดิมนั้นดินแดนรัฐซาบะห์ในปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรบรูไนนับตั้งแต่ศตวรรษที่ 15  ต่อมาทางรัฐสุลต่านซูลูกล่าวว่าทางรัฐบรูไนได้ยกดินแดนบอร์เนียวเหนือให้รัฐสุลต่านซูลู ในขณะที่ทางประวัติศาสตร์รัฐบรูไนปฏิเสธว่ารัฐบรูไนไม่ได้ยกดินแดนซาบะห์ให้แก่รัฐสุลต่านซูลู
การที่รัฐสุลต่านซูลูอ้างถึงการที่ซาบะห์หรือเดิมนั้นชื่อว่าบอร์เนียวเหนือเป็นส่วนหนึ่งของรัฐสุลต่านซูลูนี้เอง ทำให้รัฐสุลต่านซูลู ซึ่งจริงๆแล้วรัฐนี้ล้มทลายไปนานแล้ว แต่บางส่วนต้องการที่จะให้รัฐสุลต่านคงอยู่ เพื่อความชอบธรรมในการเรียกร้องสิทธิเหนือรัฐซาบะห์
เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันคือการที่กองกำลังติดอาวุธรัฐสุลต่านซูลูยึดรัฐซาบะห์
สุลต่านยามาลุล กีราม ที่ 3 เป็นอีกหนึ่งในบรรดาสุลต่านที่อุปโลกตนเองขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงเรียกร้องให้มีการคืนรัฐซาบะห์ให้แก่รัฐสุลต่านซูลู  หลายต่อหลายคนที่อุปโลกขึ้นมาเป็นสุลต่าน เป็นสุลต่านที่อาศัยร้านค้าเป็นสำนักงานสุลต่าน

สุลต่านยามาลุล กีราม ที่ 3
สำนักงานของสุลต่านเอสมาแอล กีราม ที่ 2
ร้านค้าที่ใช้เป็นสำนักงานของสุลต่านคนหนึ่ง
ในวันที่12 กุมภาพันธ์ 2013 กองกำลังติดอาวุธรัฐสุลต่านซูลู ได้ขึ้นบกที่ชายฝั่งบริเวณหมู่บ้านตันดูวอ เมืองลาฮัดดาตู  ต่อมาในวันที่14 กุมภาพันธ์ ทางผู้บัญชาการตำรวจมาเลเซียแจ้งว่ากองกำลังติดอาวุธรัฐสุลต่านซูลูดังกล่าวเป็นกองกำลังของผู้สืบเชื้อสายสุลต่านซูลู จากภาคใต้ฟิลิปปินส์  ในวันเดียวกันทางดาโต๊ะสรีมูฮัมหมัด นายิบ ตุนอับดุลราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้กล่าวว่าทางมาเลเซียจะดำเนินการเจรจากับผู้บุกรุกครั้งนี้  ก่อนที่จะขับไล่ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่รัฐซาบะห์
 กองกำลังติดอาวุธรัฐสุลต่านซูลู
 กองกำลังติดอาวุธรัฐสุลต่านซูลู
 กองกำลังติดอาวุธรัฐสุลต่านซูลู
 กองกำลังติดอาวุธรัฐสุลต่านซูลู
และต่อมาในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ทางดาโต๊ะสรีฮีชามุดดิน ตุนฮุสเซ็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ยืนยันว่ากองกำลังติดอาวุธดังกล่าวเป็นผู้สนับสนุนรัฐสุลต่านซูลู  ต่อมาในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ยืนยันอีกครั้งว่า ทางรัฐบาลมาเลเซียกับรัฐบาลฟิลิปปินส์จะร่วมมือกันแก้ไขปัญหาการบุกรุกครั้งนี้
.
                ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ รัฐบาลฟิลิปปินส์ ได้ส่งเรือสำหรับนำกลุ่มคนราว 180 คน พร้อมกองกำลังติดอาวุธ อีกราว 30 คน เพื่อกลับไปยังประเทศฟิลิปปินส์  วันที่ 26 กุมภาพันธ์เป็นวันสุดท้ายที่ทางรัฐบาลมาเลเซียได้ขีดเส้นสำหรับการดำเนินการขั้นเด็ดขาด ถึงอย่างไรก็ตามการเจรจาก็ยังคงดำเนินการอยู่

               วันที่ 28 กุมภาพันธ์  ทางรัฐบาลมาเลเซียถูกกดดันให้มีการเจรจาโดยตรงกับสุลต่านยามาลุล กีราม ที่ 3 ซึ่งการบุกรุกได้ดำเนินการมาเป็นเวลามากกว่าสามอาทิตย์แล้ว  ในวันที่ 1 มีนาคม 2013 เกิดการปะทะกันระหว่างฝ่ายตำรวจกับฝ่ายกองกำลังติดอาวุธรัฐสุลต่านแห่งซูลู  ฝ่ายตำรวจเสียชีวิต 2 นาย คือ ASP Zulkifli Mamat และ Sjn Sabarudin Daud ฝ่ายกองกำลังติดอาวุธรัฐสุลต่านแห่งซูลู  เสียชีวิต 12 คน เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านตันดูวอ (Tanduo)

ต่อมาในวันที่  2 มีนาคม  เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตอีก 6 นายจากการถูกโจมตีในหมู่บ้าน Sri Jaya Simunul เมืองเซิมโปร์นา ส่วนฝ่ายกองกำลังติดอาวุธรัฐสุลต่านแห่งซูลูก็เสียชีวิต 6 คนเช่นกัน  ในวันที่ 3 มีนาคม  ศพเจ้าหน้าที่ตำรวจ  6 นายถูกลำเลียงออกจากหมู่บ้าน พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 19 นายที่ไม่สามารถออกจากพื้นที่ขณะเกิดการปะทะกัน
                ในวันที่ 4 มีนาคม ทางนาย Jose Brillantes เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ และนาย J. Eduardo Malaya ทูฟิลิปปินส์ประจำประเทศมาเลเซียได้เดินทางไปพบดาโต๊ะสรี ดร. อาหมัด ซาอิด ฮามีดี  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย และดาโต๊ะสรีฮีชามุดดิน ตุนฮุสเซ็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อหาทางออกในการแก้ปัญหานี้

สถานการณ์ยังคงตึงเครียด ต่อมาในวันที่ 5 มีนาคม ทางรัฐบาลมาเลเซียเริ่มมีการโจมตีทางอากาศไปยังกลุ่มกองกำลังติดอาวุธรัฐสุลต่านแห่งซูลูที่หมู่บ้านตันดูวอ พร้อมเริ่มส่งกำลังตำรวจรุกไปยังหมู่บ้านดงกล่าว ทางนายกรัฐมนตรีมาเลเซียก็ได้ประกาศว่าทางรัฐบาลมาเลเซียจำเป็นต้องรักษาและปกป้องอธิปไตยของประเทศ หลังจากการเจรจาด้วยสันติวิธีไม่ประสบความสำเร็จ.
ผู้บัญญาการตำรวจกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด
 ผู้บัญาการตำรวจมาเลเซีย ตันสรีอิสมาแอล โอมาร์ พร้อมพลเอกตันสรีซุลกีฟลี  มูฮัมหมัดซีน ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้กล่าวถึงการปฏิบัติการที่เรียกว่า OpsDaulat บรรลุวัตถุประสงค์ นั้นคือการปกป้องอธิปไตยของประเทศ

การปะทะกันมีผลทำให้เกิดการเสียชีวิตดังนี้
1 มีนาคม กองกำลังรัฐฯ  12 คน ฝ่ายตำรวจ 2 คน  ชาวบ้าน 1 คน
3 มีนาคม กองกำลังรัฐฯ  7 คน ฝ่ายตำรวจ 6 คน  ชาวบ้าน 4 คน
6-7 มีนาคม กองกำลังรัฐฯ 33 คน ฝ่ายตำรวจ - คน  ชาวบ้าน - คน
10 มีนาคม กองกำลังรัฐฯ  - คน ฝ่ายตำรวจ - คน  ชาวบ้าน 1 คน
12 มีนาคม กองกำลังรัฐฯ   3 คน ฝ่ายตำรวจ 1 คน  ชาวบ้าน - คน
และคาดว่าการเสียชีวิตจะยังคงมีจำนวนเพิ่มขึ้น

ชาวซูลูในรัฐซาบะห์
ด้วยรัฐซาบะห์กับรัฐสุลต่านซูลูนั้น มีชนเผ่าซูลูอาศัยอยู่ทั้งในทั้งสองดินแดน  สำหรับชนเผ่าซูลูในรัฐซาบะห์นั้นจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ

กลุ่มแรก เป็นกลุ่มชาวซูลูที่เดินทางเข้าไปอาศัยอยู่ในรัฐซาบะห์มาเป็นเวลาหลายชั่วอายุคนแล้ว  ชาวซูลูกลุ่มนี้ในรุ่นปัจจุบัน มีบทบาทสำคัญในสังคมรัฐซาบะห์ เป็นข้าราชการ นักการเมือง นักธุรกิจ หนึ่งในชาวซูลูกลุ่มนี้ที่มีชื่อเสียง และเป็นผู้หนึ่งทที่มีบทบาทสำคัญในการนำรัฐซาบะห์เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของประเทศมาเลเซีย คือ ตุน ดาตูมุสตาฟา บินดาตูฮารุน ผู้ว่าการคนแรกของรัฐซาบะห์

กลุ่มที่สอง คือกลุ่มชาวซูลูที่อพยพหนีภัยจากหมู่เกาะซูลู ภาคใต้ฟิลิปปินส์ เป็นกลุ่มที่ทางรัฐบาลมาเลเซีย ได้มอบสัญชาติมาเลเซียให้แก่กลุ่มคนเหล่านี้ ทำให้พวกเขามีสิทธิเหมือนชาวมาเลเซียทั่วไป บางส่วนได้รับการศึกษาเป็นอย่างดี สามารถมีบทบาทในสังคมของรัฐซาบะห์

กลุ่มที่สาม คือกลุ่มชาวซูลูที่อพยพเช่นเดียวกันกับกลุ่มที่สอง แต่อาจจะอพยพมาภายหลังจากกลุ่มที่สอง กลุ่มที่สามนี้เป็นกลุ่มที่ไม่ได้รับสัญชาติมาเลเซีย แต่ทางรัฐบาลมาเลเซียออกบัตรผู้อพยพให้แก่กลุ่มคนเหล่านี้ ทำให้พวกเขาสามารถอาศัยอยู่ในรัฐซาบะห์ได้ตลอดไป แม้จะไม่มีสิทธิเฉกเช่นชาวมาเลเซีย

ผลกระทบจากการเกิดเหตุการณ์กองกำลังรัฐสุลต่านซูลูบุกยึดรัฐซาบะห์
จะทำให้เกิดปฏิกิริยาหลากหลายขึ้นจากเหตุการณ์นี้  ในกลุ่มของกองกำลังติดอาวุธรัฐสุลต่านซูลู อาจได้รับกำลังใจ ความเห็นอกเห็นใจจากกลุ่มชาวซูลูที่ยังฝังใจว่ารัฐซาบะห์เป็นของตนเอง ซึ่งอาจรวมถึงชาวฟิลิปปินส์ส่วนใหญ่ที่ถือว่ารัฐซาบะห์นั้นเป็นดินแดนที่สุลต่านแห่งซูลูให้เช่าเท่านั้น ดังนั้นถึงเวลาที่ฟิลิปปินส์จะต้องเรียกร้องดินแดนแห่งนี้คืนจากมาเลเซีย และด้วยมีผู้ที่อุปโลกตนเองเป็นสุลต่านมีจำนวนมาก การที่กองกำลังติดอาวุธรัฐสุลต่านซูลูได้บุกไปยังรัฐซาบะห์ก็อาจทำให้ความศรัทธาของชาวซูลูในหมู่เกาะซูลูที่มีต่อสุลต่านยามาลุล กีราม ที่ 3 เพิ่มมากขึ้น
หนังสือพิมพ์ในฟิลิปปินส์เรียกร้องให้คืนรัฐซาบะห์
 ชาวมุสลิมฟิลิปปินส์เรียกร้องให้คืนรัฐซาบะห์แก่ประเทศฟิลิปปินส์
ชาวมุสลิมฟิลิปปินส์เรียกร้องให้คืนรัฐซาบะห์แก่ประเทศฟิลิปปินส์
ในทางกลับกันการที่กองกำลังติดอาวุธรัฐสุลต่านซูลูภายใต้การนำของสุลต่านยามาลุล กีราม ที่ 3 ได้บุกรุกรัฐซาบะห์ ทำให้มีผลกระทบต่อความเห็นอก เห็นใจของชาวมาเลเซียโดยภาพรวมที่ต่อชาวหมู่ซูลู  ชาวมาเลเซียมีความระวาดระแวงต่อชาวซูลูบางทั้งๆที่มีสัญชาติมาเลเซีย เช่นนายตำรวจมาเลเซียผู้หนึ่งถูกจับฐานมีเจตนาไม่แจ้งข่าวการเข้ามาของกองกำลังติดอาวุธชาวซูลูในเมืองเซิมโปร์นา จนนำมาซึ่งความเสียหายต่อชีวิตตำรวจมาเลเซีย  ครั้งหนึ่งในอดีตชาวมาเลเซียมักเห็นอก เห็นใจชาวซูลู และชนชาวมุสลิมอื่นๆในหมู่เกาะซูลูและแผ่นดินใหญ่เกาะมินดาเนา รวมทั้งรัฐบาลมาเลเซียเองก็เป็นตัวกลางในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในภาคใต้ฟิลิปปินส์กับรัฐบาลฟิลิปปินส์ 

ความเห็นอก เห็นใจที่มีต่อชาวซูลูย่อมจะต้องลดลง และการช่วยเหลือด้านการพัฒนาชาวมุสลิมมินดาเนา ซึ่งจะรวมทั้งชาวซูลูของรัฐบาลมาเลเซีย  ตามที่รัฐบาลมาเลเซียสัญญาจะให้ความช่วยเหลือครั้งที่มีการทำสนสัญญายุติสงครามระหว่างรัฐบาลฟิลิปปินส์กับขบวนการปลดปล่อยอิสลามแห่งโมโร หรือ Moro Islamic Liberation Front ย่อมต้องชงักลง  ดังนั้นการปฏิบัติการของกองทัพสุลต่านแห่งซูลู  นอกจากจะประสบความพ่ายแพ้ การฆ่าตัวตายแล้ว ยังน่าจะถือเป็นการทำลายความเห็นอก เห็นใจของชาวมาเลเซียที่มีต่อชาวซูลูในหมู่เกาะซูลู และชาวซูลูที่ไม่ใช่สัญชาติมาเลเซีย ซึ่งอาศัยอย่ในรัฐซาบะห์มากกว่า 8 แสนคนอีกด้วย

Tiada ulasan: